แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

รักษ์ป่า รักษ์น้ำ รักษ์ดิน อย่าเป็นแฟชั่น

ที่มา Thai Free News

 ถ้าสร้างเขื่อนแล้วกลัวว่าสัตว์จะสูญพันธุ์ 
ถึงไม่มีมนุษย์ไม่มีเขื่อน 
ไดโนเสาร์มันก็สูญพันธุ์ไปหลายชนิดแล้ว
เขื่อนจึงไม่ใช่สาเหตุหลักของการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่า







ถ้าสร้างเขื่อนแล้วกลัวต้นไม้จะหมดป่า 
ถึงไม่สร้างเขื่อน มันก็แอบลักลอบตัดไม้
ทำลายป่ากันทุกวันอยู่แล้ว 
สุดท้ายป่าไม้ก็เหลือน้อยลงเรื่อยๆ 
พอฝนตกหนักก็เกิดน้ำป่าไหลหลาก
่วมชาวบ้านตายเป็นประจำ

การสร้างเขื่อนมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น..... 

อยู่ที่ว่าอยากได้อะไร..... ถูกต้อง !!

นอกจากตัวเขื่อนจะใช้กักเก็บน้ำได้แล้ว 

คุณยังสามารถนำพลังจากน้ำ 
มาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
เช่น ใช้ในการเกษตร ใช้ปั่นไฟ ใช้ทำการประมง 

และใช้แก้ปัญหาให้พื้นที่แล้งซ้ำซากใน 19 จังหวัดภาคอีสาน

แล้วคุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไปหรือไม่ ใช่ !!!

ช่ายนั่นสิคุ้มค่ามั้ย ถามว่าเราจะยอมรับ

ความเสี่ยงน้ำท่วมใหญ่แบบที่พึ่งท่วม กทม.
ไปเมืิ่อปี 54 อีกหรือไม่ 
เพราะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ
ไปหลายแสนล้านจนแทบประเมิณค่าไม่ได้
กับ"โครงการบริหารจัดการน้ำแค่ 3.5 แสนล้าน "


 แพงไปรึป่าว 

เรื่องสร้างเขื่อนมันมีข้อขัดแย้งกันเสมอ 

นักอนุรักษ์ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ กับ ผู้ประสพภัยในพื้นที่
ไหนจะ นักอนุรักษ์เก๊ กับ พวกดัดจริตชนอีกไม่ใช่น้อย

คืองี้นะ..มักจะมีคำถามว่า...

การสร้างเขื่อนนี้มันป้องกันน้ำท่วมได้จริงหรือไม่ 
อันนี้มันตอบยากเหมือนกัน เพราะปริมาณน้ำ
ขนาดไหนที่กักเก็บได้ หากสร้างแล้ว
แก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมไม่ได้จะทำไง

ครับตอบยาก แต่มันก็ตอบยากพอๆ 

กับคำถามอีกฝ่ายที่ว่า แล้วมีใครรับประกันได้มั้ยว่า
ไม่ทำแล้ว จะไม่มีใครบ่นไม่มีใครตายเศรษฐกิจ
จะต้องไม่เสียหายหลายแสนล้านเพราะน้ำแล้งน้ำท่วมอีก

คิอมันมาถึงจุดที่เลยคำว่าเหตุผลไปแล้ว 

มันเป็นเรื่องความเชื่อ เดือดร้อน 
ความต้องการที่แตกต่างกัน
มันก็ต้องโหวตกันไปเลยดีมั้ย...

ว่าเสียงส่วนใหญ่เค้าว่าไง..

ok ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่ให้ทำ 

ก็ไม่ต้องสร้างผมก็ไม่แคร์อะไร 
แค่อยากให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบร่วมกัน
เวลาน้ำท่วมน้ำแล้งจะได้ไม่ต้องมาปลุกม็อบแล้วโทษกันไป 

ด่ากันมา ถือว่ายอมรับสภาพ เพราะเสียงส่วนใหญ่ไม่ให้สร้าง

ผมว่าเรื่องมันดูง่ายๆ แค่นี้ แต่เรากลับ

ไม่เคยเดินกันไปจนสุดทาง เพื่อถามความต้องการ
ของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่แค่ นักอนุรักษ์กลุ่มต่างๆ 

นอกพื้นที่ไม่กี่คน ที่ชอบคิดแทนประชาชน


ผมเบื่อจริงๆ ที่เรื่องนี้มักถูกหยิบยก

มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง 
และบ่อยครั้งก็หวังโค่นล้มรัฐบา

แย่งชิงอำนาจทางการเมือง สุดท้าย
ก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยมันไว้ 
เพื่อหยิบฉวยขึ้นมาปลุกระดมกันใหม่ในครั้งต่อๆไป

ผมอาจจะพูดผิดก็ได้ ใครจะช่วยโต้แย้ง

ผมก็ยินดีรับฟังนะครับ ไม่มีใครผิดใครถูกทั้งหมด 
เพราะไม่มีใครใจเป็นกลางหรอก เอาเป็นว่า 
ทำอะไรก็ขอให้นึกถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง

นี่เราอาจจะกำลังเห็นแก่ตัวไปรึป่าวนี่ 

เราควรคิดถึงป่าส่วนใหญ่ หรือสัตว์ส่วนใหญ่ 
มากกว่าชีวิตคนก็ดูมีอุดมการสูงปรี๊ดดดดด
ดีเหมือนกันนะ เอางั้นเลยมะ

แบบว่าผมก็ไม่ใช่ดัดจริตชนซะด้วย 

เพราะถ้าไปสวนจตุจักร แมร่งขายสัตว์ป่าสงวนกันโครมๆ 
ต่อมของพวกนักอนุรักษ์แบบดัดจริตชน 
แมร่งไม่เห็นทำงาน แถมบางครั้งมันอาจเป็นลูกค้าด้วยซ้ำไป

ช่ายครับ ผมกำลังว่ามันดัดจริต 

มันเป็นวัฒนธรรมแบบไทยๆ คือพูดอนุรักษ์ป่า 
รักษาน้ำ รักษาดิน เป็นแฟชั่น เป็นค่านิยม 
ที่ถูกปลูกฝังสั่งสอนพูดกรอกหูกันตั้งเอยู่ทุกวัน 
มันถึงเติบโตมาแล้ว ก็พูดตามๆกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง
เหมือนอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ใครพูดแบบว่า 

" มึงสร้างกูเผา " แล้วแม่งโคตรเท่ใคตรดูดี 
โคตรมีอุดมการ (ป่าเถื่อน) จริงๆ

โดยคุณเสรีภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น