แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

"วิสุทธิ์ ไชยณรุณ" รองประธานสภาฯ จี้สำนึก "ผู้ทรงเกียรติ" ลดทิฐิ หยุดวิวาท เพื่อชาติ

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 http://www.prachachat.net/online/2013/09/13800493301380049351l.jpg


updated: 25 ก.ย. 2556 เวลา 02:00:00 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ระยะหลัง "สภาไทย" ถูกสังคมมองว่า ถ่อย - เถื่อน

เป็น ผลพวงที่มาจากพฤติกรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ผ่านการอภิปรายด้วยวาจาด้วยถ้อยคำรุนแรง ผ่านการกระทำที่ชวนให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมกับสมญานาม "ผู้ทรงเกียรติ" 

ไม่ เพียงแค่สายตาคนภายนอกที่มองเช่นนั้น แต่ในฐานะคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ประธานสภาอย่าง "วิสุทธิ์ ไชยณรุณ" รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กลับมองปรากฏการณ์ไม่ต่างกัน ซ้ำยังขอระบายความในใจถึงบรรดา ส.ส.ที่แสดงพฤติกรรมท้าตี ท้าต่อย ตะโกนคำหยาบคาย ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล เพราะเขามองว่าพฤติกรรมเหล่านั้นน่าอับอาย

"อยาก ให้สภาเป็นที่แก้ปัญหาของประชาชนมากกว่า จะไปใช้อารมณ์ความโกรธแค้นมันไม่ค่อยดีต่อสภา การใช้คำพูด คำจาสำคัญที่สุด ไม่เคารพประธานไม่เป็นไรหรอก แต่บนศีรษะของประธานมีพระบรมสาทิสลักษณ์ คำพูด คำจาอยากให้ ส.ส.ระมัดระวัง ไม่ใช่ใช้คำสองแง่สองง่ามไม่สุภาพ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ไม่อยากให้แสดงภาพนั้นออกสู่สายตาประชาชน ไม่ว่าจะถ่ายทอดสดหรือไม่ถ่ายทอด ก็ไม่เหมาะสมต่อพระบรมสาทิสลักษณ์"

"เรา จะเปิดเออีซีอีก 2 ปีแต่เรายังตีกันอยู่เลย ไม่อายเขาเหรอ พม่าเขารบกันหลายสิบปีวันนี้ยังจับมือกัน เจรจาชนกลุ่มน้อยแล้ว แต่เราคนกลุ่มเดียวกันในสภายังไม่สมานฉันท์เลย เราไม่ตำหนิใครเพราะถือเป็นผู้ทรงเกียรติ แต่ให้คิดถึงประชาชน ไม่อยากให้ภาพอะไรออกสู่สายตาประชาชน อยากให้สภาเป็นที่พึ่งของคนทั้งชาติ" 

"ผมอยากให้สภาพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ในพรรคประชาธิปัตย์พูดดีมาก อย่างท่านชำนิ ศักดิเศรษฐ์ อภิชาต ศักดิเศษฐ์สอง พี่น้องคู่นี้ไม่เคยว่าใคร ท่านชวน หลีกภัย ก็พูดดี แต่ในพรรคเพื่อไทยบางท่านก็พูดจาก้าวร้าวเหมือนกัน อยากให้แต่ละท่านสำนึก คราวหน้าอย่าทำอะไรไม่เหมาะสม" 

เหตุการณ์ที่ตอกย้ำความรู้สึก ทำให้เขาต้องออกมาเผยความในใจครั้งนี้ เพราะวัน หนึ่ง "วิสุทธิ์" บังเอิญนั่งดูรายการสภาเด็ก ในที่ประชุมสภาเด็กมีการวิจารณ์เรื่องการประชุมสภาผู้ใหญ่ จิตใต้สำนึกในนาทีนั้น บอกตัวเองทันทีว่าเขารู้สึกอายเด็ก 

"ผม เนี่ยอายที่เด็กมัธยมวิจารณ์ว่าพวกเราไม่สุภาพเรียบร้อยใช้วาจาเสียดสี เด็กเขาไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทย หรือ ประชาธิปัตย์ แต่เขาพูดรวม ๆ เราก็รู้สึกอายเด็ก เขาตำหนิสภาผู้แทนราษฎรเรา เขาก็บอกว่าผู้ทรงเกียรติก็ทำตัวให้ทรงเกียรติหน่อยเถอะ" 

และ ทุกครั้งที่เขาลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน มักถูกถามว่า ทำไมปล่อยให้เขาทะเลาะกัน "วิสุทธิ์" จึงต้องหาวิธีเลี่ยงตอบ "ผมบอกชาวบ้านว่าอย่าดู ไปดูหนัง ดูละคร ดูตลกแทน ถ้าดูแล้วทำให้คนทุกข์ใจ"

"ผม ว่าชาวบ้านเบื่อการเมืองนะ ที่ฝ่ายค้านเขาเรียกร้องให้ถ่ายทอดเยอะ ๆ แต่ชาวบ้านเขาไม่อยากดู เขาบ่น เขาเครียด ดังนั้น เราปรารถนามาเป็นผู้แทนทำให้คนมีความสุข ก็ทำให้เขามีความสุขเถอะ อย่าทำให้เขามีความทุกข์เลย เรารับอาสามาแก้ปัญหา มาคุยกัน เอาความสุขกลับไปให้ประชาชน ถ้ามาตีกัน ด่ากันในสภาประชาชนทุกข์ใจ เชียร์แล้วเครียด"

"วิสุทธิ์" ผ่านการเป็น ส.ส.มาหลายสมัย สวมเสื้อคลุมมาแล้ว 3 พรรค ตั้งแต่ ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เขาเปรียบเทียบว่า สภาไทยยุค 10 ปีก่อน ไม่ต่อยกันสุดหมัด ไม่ทะเลาะกันดุเดือดเหมือนทุกวันนี้ เพราะ ส.ส.รุ่นเก่า และรุ่นกลางมีความประนีประนอม จบคือจบ แต่ สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปคือ ส.ส.รุ่นใหม่ ที่เข้ามาเป็น ส.ส.หลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. ต่างมีมวลชนหนุนหลัง พกความขัดแย้งเข้าสภา 

"ใช่ ๆ ถูก ๆ...รุ่นใหม่เนี่ยสำคัญ แตกแยกกันเองไม่พอ ทำให้ประชาชนแตกแยกอีก ผมว่ามันผิดทุกฝ่ายไม่ว่าสีไหน พรรคไหนก็มีส่วนผิด เริ่มทำให้คนแบ่งแยก เกลียดกันชัดเจน ไม่ใช่คนภายนอกเกลียดกัน คนในสภาก็เกลียดกันอย่างจริงจัง ฉะนั้น ผมว่าอย่าทำเลย ปัญหาข้างนอกเกิดจากในสภาพูดกันตรง ๆ ถ้าในสภาสงบ ข้างนอกก็สงบกว่านี้ ในนี้ไม่ทะเลาะกัน ข้างนอกก็ไม่ทะเลาะกัน เขมรฝ่ายค้านรัฐบาลยังจับมือกัน ทำไมเราไม่จับมือกันบ้าง ทำเพื่อชาติเถอะ อย่าทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง เอาบ้านเมืองให้รอด" 

แต่ ปัจจัยที่บ้านเมืองจะไปไม่รอด "วิสุทธิ์"บอกว่า "ทิฐิไง.. วันนี้ก็เป็นผู้ใหญ่หมดไม่กล้าไปแนะนำหรอก ผมเป็นรุ่นกลาง ๆ ไม่มีอำนาจอะไร แต่อยากวิงวอนทุกฝ่ายสามัคคี วันนี้เสียงของผมไม่ดัง เป็นนักการเมืองไม่มีชื่อเสียง แต่คนทั้งชาติต้องช่วยเตือนสตินักการเมืองให้เลิกทะเลาะกัน" 

อย่างไรก็ตาม ในประวัติการนั่งบนบัลลังก์ของ "วิสุทธิ์" ถูกบันทึกว่า เคยเรียกตำรวจรัฐสภามา "หิ้ว" สุนัย จุล พงศธร เพื่อน ส.ส.ใต้ชายคาพรรคเพื่อไทยออกจากห้องประชุม เคยเบรก - ตำหนิ ส.ส.พวกเดียวกันอย่างไม่เลือกหน้า จนได้รับตำแหน่ง "ดาวเด่น" ปี 2555 จากสื่อมวลชนประจำรัฐสภา

"วิสุทธิ์" ยอมรับว่าการทำหน้าที่อย่างเถรตรง บางครั้งคนในพรรคก็ไม่ชอบหน้าบางคนมากล่าวหาว่าเขา "เอียง" แต่เขาเลือกทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม 

"เวลา ทำหน้าที่ผมไม่มองใครเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ผมมองความเป็นธรรม เพราะท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยสั่งให้ผมทำงานเข้าข้างพรรคเพื่อไทย ท่านบอกให้ผมทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม ก็ทำตามที่นายกฯ แนะนำครั้งแรก ดังนั้น จะมาโกรธผมไม่ได้ คงไม่มีใครบอกให้เข้าข้างพรรคนั้นพรรคนี้ บางคนพรรคเดียวกันก็ยังด่าผมเยอะว่าเอียง ผมไม่ได้เอียงหรอก แต่น่าจะเปิดโอกาสฝ่ายค้านได้พูดบ้าง"

เป็นชีวิตของ "วิสุทธิ์ ไชยณรุณ" ตลอด 2 ปีบนบัลลังก์รองประธานสภา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น