แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ศาลจังหวัดนครฯ อนุมัติหมายจับ "6 แกนนำ" ม็อบสวนยางที่ก่อเหตุรุนแรงแล้ว

ที่มา go6tv


เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปิดการจราจรโดยได้นำรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่มาปิดกั้นเส้นทาง 2 จุด ได้แก่ แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ชุมนุมจำนวน 300 คน และบริเวณแยกบ้านตูล ซึ่งเป็นทางกั้นรถไฟ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ชุมนุมจำนวน 150 คน ซึ่งจากการปิดเส้นทางทั้งทางรถยนต์และรถไฟดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทาง จำนวน 15,000 คน รถไฟกว่า 10 ขบวนไม่สามารถเดินทางได้ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง ส่วนผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ต้องอ้อมเส้นทางกว่า 100 กม. หรือต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมถึงการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้สั่งเปิด ศปก.ตร.เพื่อติดตามสถานการณ์เต็มรูปแบบตลอด 24 ชม. โดย ผบ.ตร.ยกเลิกภารกิจวันนี้ทั้งหมดเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ สั่งการให้สันติบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด โดยสรุปว่าขณะนี้มี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรสวนยางในพื้นที่ที่เดือดร้อนจริงๆ และกลุ่มคนนอกพื้นที่และกลุ่มที่หวังผลทางการเมือง มีพรรคการเมืองหนุนหลัง รวมทั้งมีกลุ่มวัยรุ่นที่พร้อมก่อเหตุรุนแรง ซึ่งเรียกว่ากลุ่มหัวขวาน ทั้งนี้การชุมนุมที่มีการแยกส่วนเช่นนี้ทำให้การเจรจาไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีแกนนำที่ชัดเจน
 
ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะยกระดับการชุมนุมในวันที่ 3 กันยายนนั้น พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำชับให้มีการตั้งด่านตรวจค้นตามจุดต่างๆ เพื่อคัดกรองอาวุธและบุคคลต้องสงสัย, พร้อมให้จัดทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ให้พร้อมรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย ได้สั่งการให้ บช.ภ.1-9, บช.น. และ ศชต.เปิด ศปก.ตร.เต็มรูปแบบเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ของตนเอง เตรียมการทั้งกำลังพลและอุปกรณ์พร้อมไว้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความอดทน ละมุนละม่อม และใช้มาตรการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางจราจรเพื่อให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถใช้ เส้นทางสัญจรไปมาได้
                   
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมตามที่มีกระแสข่าวอย่างแน่นอน แต่จะเน้นการเจรจาอย่างสันติวิธี และใช้ความอดทนละมุนละม่อม ยึดหลักกฎหมายในการดูแลการชุมนุม ขณะเดียวกันยืนยันว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในการดูแลการชุมนุม ซึ่ง ผบ.ตร.ได้ให้นโยบายว่าหากสถานการณ์รุนแรงเกินกว่าที่จะใช้กฎหมายปกติ ก็ให้เสนอขึ้นมา ซึ่ง บช.ภ.8 ในฐานะหน่วยปฏิบัติจะเป็นผู้วิเคราะห์สถานการณ์ว่าเหตุการณ์ในระดับใดจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ นั่นคือ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรดังกล่าว
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ล่าสุดศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อนุมัติออกหมายจับแกนนำก่อเหตุรุนแรง 6 คน ได้แก่ นายชญานิน คงลัง, นายก้องเกียรติ ชูทอง, นายสมภาษณ์ ขวัญทอง, นายสัมมิตร จุ้ยปลอด, นายประภาส ภักดีรัตน์ และนางวนิดา แก้วมณี ในข้อหากระทำการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จราจร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ขณะที่เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติออกหมายจับจำนวน 9 คน ได้แก่ นายพีรพงศ์ วิชัยดิษฐ์, นายภิญโญ หมื่นจร, นายบัญชา ณ พัทลุง, นายกิตติวดี ขุนทอง, นายสมโภชน์ กำเนิดรักษา, นายสำราญ คงสวัสดิ์, นายสากล อินทระ, นายสมสุข กำเนิดรักษา และนายสมเกียรติ ทองเสน ในข้อหาร่วมกันปิดกั้นทางหลวง หรือนำสิ่งใดมาขวางหรือวางไว้บนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 39 โดยผู้ที่ออกหมายจับถือเป็นกลุ่มที่ก่อความรุนแรงไม่จำแนกว่ากลุ่มไหน กลุ่มเกษตรกรหรือคนนอก

ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น