แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กันตนาเตรียมเปิดโรงภาพยนตร์ชุมชนพันแห่งทั่วประเทศ เก็บค่าชม 30 บาท

ที่มา ประชาไท


กันตนากรุ๊ปเปิดตัวโรงภาพยนตร์ชุมชน ตั้งเป้าหาผู้ลงทุนในระดับอำเภอ เพื่อเปิดโรงภาพยนตร์ขนาด 50 ที่นั่ง 1,000 แห่ง เก็บค่าชม 30 บาท และจะใช้ระบบจัดการเบ็ดเสร็จจากส่วนกลาง เพื่อให้ผู้ประกอบการฉายหนังแบบไม่เปลืองแรงงาน พร้อมเล็งขยายตลาดฉายหนังสู่อาเซียน
เว็บไซต์ของบริษัทกันตนา กรุ๊ป รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่สตูดิโอ กันตนา เขตห้วยขวาง บริษัทกันตนา ได้เปิดตัวโรงภาพยนตร์ชุมชน "กันตนา ซีนีเพล็กซ์" (Kantana Cineplex) ครั้งแรกของประเทศไทย โดยมีนายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของแนวคิด "โรงภาพยนตร์ชุมชน– One Frame, One Culture" เปิด เผยว่าได้จัดตั้งบริษัท เอเชีย ซีนีม่า เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ ACN สรรหาผู้ร่วมลงทุนในท้องถิ่นระดับอำเภอทั่วประเทศ ตั้งเป้าโรงภาพยนตร์ 1,000 แห่ง จากปัจจุบันที่มีโรงภาพยนตร์สนใจเข้าร่วมแล้ว 500 แห่ง
ทั้งนี้นายจาฤก ระบุว่าโครงการโรงภาพยนตร์ชุมชนแรกของไทย "กันตนา ซีนีเพล็กซ์" จะเป็นโครงการโรงภาพยนตร์ชุมชน (Community Cinema) ครั้งแรกของประเทศไทย เข้าร่วมลงทุนกับเอกชนในท้องถิ่นต่างๆ สร้างโรงหนังขนาดเล็ก 50 ที่นั่ง ราคาตั๋วเพียง 30 บาท ให้เป็นศูนย์รวมของประชาชนในท้องถิ่นแบบ Community Center คาดหมายเชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นระดับอำเภอทั่วประเทศ และก้าวสู่ทั่ว AEC ในไม่ช้า
นายจาฤก กล่าวด้วยว่า "แนวคิด โรงภาพยนตร์ชุมชน ‘One Frame, One Culture’ มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าภาพยนตร์หรือหนัง เป็นสื่อเร้าการรับรู้ของมนุษย์ที่มีอิทธิพลสูงมาก จึงสามารถทำหน้าที่เป็นสื่อสร้างเสริมการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมของผู้คนใน ท้องถิ่นต่างๆ ได้ดียิ่ง"
โดยโครงการโรงภาพยนตร์ชุมชน กันตนา ซีนีเพล็กซ์ มีเป้าหมายการดำเนินการในเบื้องต้นที่การสรรหาผู้ร่วมลงทุนภาคท้องถิ่น เพื่อกระจายการก่อสร้างให้ได้ 1,000 แห่งทั่วประเทศ และคาดหมายเปิดดำเนินการพร้อมกันภายในต้นปี 2557
"เรามองว่าโรงภาพยนตร์ชุมชนเหล่านี้ จะช่วยกระจายความเจริญ ลดช่องว่างระหว่างคนเมืองกับคนในชุมชนชนบท เพราะนอกจากจะมอบโอกาสให้คนชนบทได้รับความบันเทิงในมาตรฐานคุณภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นโครงการช่วยพัฒนาพื้นที่ให้เกิดเป็นศูนย์ชุมชนอย่างแท้จริง เพราะจะเป็นแหล่งให้ประชาชนในท้องถิ่นมาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ เช่น นำสินค้าพื้นเมืองและผลผลิตต่างๆในชุมชนมาขาย หรือใช้เป็นสถานที่จัดงานจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ของท้องถิ่น ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่การประชุม ไปจนถึงการรับชมการถ่ายทอดภาพงานกิจกรรมต่างๆ" นายจาฤกกล่าว
นอกจากนี้ยังมองว่า "โครงการโรงภาพยนตร์ชุมชนนี้ จะช่วยขยายฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้คนในชนบทได้ชมภาพยนตร์ในโรงได้ง่ายและบ่อยครั้ง อันจะทำให้วัฒนธรรมแบบ "ยกพวก-ยกครอบครัวมาดูหนังร่วมกัน" กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้การบริโภคผลิตภัณฑ์ละเมิดลิขสิทธิ์ลดลงเป็นอย่างมาก เกิดเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ดีขึ้นด้วย"
เว็บไซต์ของบริษัทกันตนา กรุ๊ป ระบุด้วยว่า โรงภาพยนตร์ชุมชน กันตนา ซีนีเพล็กซ์ จะมีรูปแบบเหมือนกันหมด คือเป็นโรงขนาดเล็ก 50 ที่นั่ง ราคาตั๋วเข้าชมเพียง 30 บาทต่อที่นั่ง เพราะมีต้นทุนต่ำ คือค่าการก่อสร้างเพียง 1.2 ล้านบาท และใช้เนื้อที่เพียง 200 ตารางวา และเพื่อให้เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีคุณภาพเต็มรูปแบบแม้จะมีต้นทุนต่ำ กันตนาได้พัฒนาเทคโนโลยีระบบจัดการเบ็ดเสร็จ คือ "Kantana Intelligent One Touch" ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการดำเนินการฉายภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดายไม่เปลืองแรง งาน ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ระบบการฉายภาพยนตร์จะเริ่มปฏิบัติการแบบอัตโนมัติไปตามขั้นตอนต่างๆ เช่น ไฟหรี่ลง ฉายภาพยนตร์ตัวอย่าง ฉายภาพยนตร์โฆษณา และดับไฟเข้าสู่การฉายภาพยนตร์หลัก เป็นต้นโดยการปฏิบัติการทั้งหมดจะเป็นการรับส่งสัญญาณจากส่วนกลางผ่านดาว เทียมไปสู่ทุกโรงภาพยนตร์เพื่อฉายภาพยนตร์ในระบบภาพดิจิตอลและระบบเสียง Surround 5.1 และ 7.1 ทั้งยังมีระบบ "Watermark" ช่วยตรวจสอบและป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์จากการลักลอบถ่ายภายในโรงได้อย่าง มีประสิทธิภาพอีกด้วย
ทั้งนี้ ในการเปิดตัวดังกล่าวยังมีการเชิญนายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมมาเป็นประธานในพิธีเปิด และมีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน และประธานสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่โครงการนี้เป็นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมอาเซียนด้วย
บริษัทกันตนา กรุ๊ป ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุน 500 โรงทั่วประเทศ และได้รับการตอบรับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม พม่า เขมร และลาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น