นายกรัฐมนตรี จัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน
จากประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดเผยถึงการเชิญชวนให้นักลงทุน
เข้ามามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน 2
ล้านล้านบาท และโครงการพัฒนาพื้นที่และท่าเรือน้ำลึกทวายของเมียนมาร์
ที่ไทย ได้ให้การสนับสนุน
ขณะที่วันนี้ (26 พ.ค.56) นายกรัฐมนตรี
ยังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
โดยเข้ารับฟังการบรรยายเรื่องการจัดระบบบริการผู้สูงอายุของญี่ปุ่น
รวมทั้งรับฟังประสบการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเตรียมตัวรับมือ
เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
โดยปัจจุบันมีโครงสร้างผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากอัตราเจริญพันธุ์ของไทยลดลง เฉลี่ยหญิงไทย 1 คน มีบุตรเพียง 1.5
คน และคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ไทยจะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุ 60
ปีขึ้นไป ร้อยละ 25 หรือมี 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ
ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ
ที่ต้องมีการจัดโครงสร้างด้านงบประมาณและระบบการดูแลรองรับให้เหมาะสม
โดยการรับฟังบรรยายในครั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและคณะ
เข้าร่วมรับฟังด้วยเพิ่มเติม ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข
ได้เตรียมแผนรับมือไว้เบื้องต้นแล้ว คือ
จะต้องทำให้ประชาชนไทยมีอายุคาดเฉลี่ยให้ได้ 80 ปี
และมีอายุคาดเฉลี่ยของการมีสุขภาพดี ให้ได้ถึง 72 ปี
มีระบบรองรับผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพ
ลดภาระครอบครัวและอยู่กับครอบครัวได้ยาวนาน
ส่วนเป้าหมายระยะยาวจะใช้หลายมาตรการ เช่น เพิ่มอัตราเจริญพันธุ์
ให้หญิงไทยมีบุตรเฉลี่ยเพิ่มเป็น 2.1 คน มีระบบการลดหย่อนภาษี
ให้สถานที่ทำงานขนาดใหญ่ทุกแห่งต้องมีศูนย์รับเลี้ยงเด็ก บรรเทาภาระพ่อแม่
เป็นต้น เพื่อทำให้โครงสร้างอายุประชากร
เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมสมดุลทุกช่วงอายุ ไม่มีปัญหาขาดแคลนวัยแรงงาน
by
Watsana
25 พฤษภาคม 2556 เวลา 11:05 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น