แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปากคำบก.ลายจุด 3ปี19พฤษภา:ปรองดองคือการทรยศ เสื้อแดงต้องปฏิรูปก่อนเละ

ที่มา Thai E-News



บก.ลายจุดให้สัมภาษณ์ รายการThe issues รู้ทันสถานการณ์ ช่อง11:"ผมเลือกข้าง แต่ผมไม่ได้เข้าข้าง"

ที่มา ไทยโพสต์
แม้จะมีเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วย กับการเสนอร่างพระราชบัญญัติปรองดอง พ.ศ…. ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ 163 ส.ส.เพื่อไทยที่ร่วมกันลงชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่สุดท้ายก็มีการยื่นร่างกันไปแล้วเมื่อ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นวันรุ่งขึ้น 24 พ.ค. ร.ต.อ.เฉลิมและเหล่า ส.ส.เพื่อไทยหลายสิบคน รวมถึงแกนนำ นปช.ก็ไปขึ้นเวทีปราศรัยด้วยกันที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุดรธานี โดย ร.ต.อ.เฉลิมปราศรัยชัดเจนว่า จะเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะต้องการพาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านให้ได้ภายในไม่เกินปีใหม่ที่จะถึงนี้!!
“ไทยโพสต์ แทบลอยด์” สนทนากับคนเสื้อแดงที่อยู่ในปีกนักเคลื่อนไหวการเมืองและ ส.ส.เสื้อแดง พรรคเพื่อไทย เพื่อสอบถามท่าทีต่อร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ถูกมองว่าจะเป็นเชื้อไฟให้การเมืองหลังเปิดสภาฯ 1 สิงหาคมนี้ร้อนแรงอย่างยิ่ง หากพรรคเพื่อไทยเดินหน้าเรื่องนี้จริง
"สมบัติ บุญงามอนงค์" หรือ "หนูหริ่ง-บ.ก.ลายจุด" แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ที่เป็นแดงอิสระสายนักกิจกรรมที่ได้รับการยอมรับจากคนเสื้อแดงมากพอสมควร ในเรื่องการมีแนวคิดเป็นตัวของตัวเอง แสดงความเห็นต่อการยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการพูดถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองของ 42 ส.ส.เพื่อไทย ก่อนที่จะตามมาด้วยร่างพ.ร.บ.ปรองดอง
"สมบัติ" ย้อนเรื่องราวความเป็นมาว่า เรื่องการนิรโทษกรรมที่มีการทำออกมาเป็นร่างกฎหมายนั้น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มาจากความตั้งใจจริงของนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเพราะโดนแรงกดดันจากคนเสื้อแดงที่ต้องการ "สิทธิการประกันตัว" ให้กับนักโทษคดีการเมืองที่เป็นคนเสื้อแดง แต่ทำไม่ได้ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยต้องยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกมา แล้วมาวันนี้เมื่อมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภาฯ ที่จะทำให้เป็นการ "นิรโทษกรรมเหมาเข่ง" ทำให้เสื้อแดงยากจะทำใจได้แน่นอน
 ...นิรโทษกรรมไม่ได้เป็นการขับ เคลื่อนที่มาจากรัฐบาล  สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือปรองดอง เจ๊าๆ กันไป ข้อเสนอของคุณเฉลิมคือเจ๊าๆ กันไป เรื่องนิรโทษกรรมเป็นข้อเสนอที่ออกจากภาคประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะกลุ่ม 29 มกราฯ ของอาจารย์สุดา รังกุพันธ์ ที่เป็นแดงกระแสรองด้วยซ้ำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการเคลื่อนเรื่องนี้ เสื้อแดงจริงๆ ไม่ได้คิดจะเสนอเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เริ่มแรกเกิดจากการที่คนเสื้อแดงติดคุกแล้วไม่ได้รับการประกันตัว แล้วยังมีที่มีการออกหมายจับอีกจำนวนมาก เช่นที่อุบลราชธานี ซึ่งมีการออกหมายจับเรื่องคดีเผาศาลากลางจังหวัดร่วม 500 หมายจับ คือออกหมายจับแบบกวาดแหเลย ก็ทำให้ชีวิตของครอบครัวและคนเหล่านี้มีปัญหามาก
...รัฐบาลก็พยายามให้กองทุนคุ้ม ครองสิทธิ์ฯ เข้าไปขอประกันตัว ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็มีคนจำนวนหนึ่งไม่ได้ คนเสื้อแดงที่เกาะติดเรื่องนี้ก็ทนไม่ไหว ก็เลยออกมากดดันรัฐบาล แล้วออกมาเป็นทางเลือกให้ออกเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สิ่งแรกที่ต้องการจริงๆ คือสิทธิประกันตัว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการใช้อำนาจของศาล จะไปกดดันไม่ได้ ศาลก็ไม่ยอม กลุ่ม 29 มกราฯ ก็เรียกร้องเรื่องสิทธิประกันตัว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่สามารถเอาคนทั้งหมดออกมาสู้ข้างนอกได้ จึงมีทางเลือกเดียวต้องออกเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 

...ถ้าเรื่องนี้เฉลิมทำสำเร็จ เสื้อแดงก็แตก ดูตัวอย่างกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยพยายามจะผลักดันร่างกฎหมายปรองดองก่อน หน้านี้ โดยไม่มีฉันทมติจากมวลชน หลังจากที่คุณทักษิณ ชินวัตร ไปวิดีโอลิงค์ที่เวทีราชประสงค์งาน 19 พ.ค.55 ในงานครบรอบสองปี แล้วบอกจะลงเรือไปขึ้นเขาแล้วก็มีปฏิกิริยาจากมวลชนมาก เป็นภาวะเปราะบางมากที่สุดของขบวนเสื้อแดงกับรัฐบาลเพื่อไทย โชคดีว่าหลังเกิดปฏิกิริยา ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อนั่งไม่อยู่ ก็ไปคุยกับข้างในพรรคเพื่อไทยแล้วมีการประชุมกัน จนทางฝั่งคุณณัฐวุฒิก็เสนอร่างกฎหมายปรองดองที่จะให้นิรโทษแต่เฉพาะมวลชน จริงๆ วันนั้นถ้าผ่านก็แตก
...ประเด็นนี้เป็นประเด็นอ่อนไหว มาก อย่างประชาธิปัตย์ก็พยายามจะแยกเสื้อแดงออกจากเพื่อไทยให้ได้ ประชาธิปัตย์จะชนะเลือกตั้งมีทางเดียวต้องให้เสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยแยกจาก กัน ถ้ายังเกาะกันแบบนี้เขาก็ชนะยาก
...ดูแล้วผมถึงเชื่อว่า ร่างกฎหมายปรองดองของคุณเฉลิมกับ 163 ส.ส.เพื่อไทยจะไม่ผ่าน เฉลิมเขาชัดคือล้มโต๊ะ เลิก เจ๊ากันแล้วเริ่มใหม่ สไตล์นักการเมืองคิดว่าแบบนี้หลายคนจะเอา ซึ่งจริงๆ แล้วมันทำไม่ได้ในภาวะที่การเมืองการต่อสู้กันมันยังไม่ชนะขาด ถ้าคุณชนะขาดแล้วคุณทำแบบนี้ไม่มีปัญหา ถ้ารัฐบาลชนะขาดทางการเมือง ไม่มีการต่อสู้กันทางการเมือง แต่ตอนนี้สงครามมันยังไม่ยุติ มันยังสู้กันอยู่เหลือง-แดง
...ที่เสนอกันมาแบบนี้เสี่ยงมาก จะผลักแนวร่วมในขบวน ที่คุณทักษิณสไกป์เมื่อ 19 พ.ค.56 ผมดูแล้วคุณทักษิณก็พูดชัดว่าเอาร่างของคุณวรชัย เหมะ โดยไม่ต้องตีความให้ซับซ้อน แต่ประชาธิปัตย์ก็พยายามตีรวนว่ามีอะไรซับซ้อนกว่านั้นหรือไม่ ก็พูดชัดขนาดนั้นว่าไม่กลับบ้านไม่เป็นไร ขอให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ผมคิดว่าแกรู้ตัวแล้วว่าที่บอกอยากกลับบ้านหลายครั้ง มันกลายเป็นจุดอ่อนของตัวเอง แล้วทำให้ฝ่ายตรงข้ามทิ่มแทงไปจุดนั้น




- คือเชื่อว่าฝ่ายพรรคเพื่อไทยจะไม่เอาด้วยกับร่างของ 163 ส.ส.เพื่อไทยและคุณเฉลิม?
ผมว่าไม่กล้า อ่อนไหวมาก ผมก็ส่งสัญญาณไปข้างในพรรคแล้วก็คุยกับผู้ใหญ่ในพรรค ไปเจอกับอาจารย์ธิดา ถาวรเศรษฐ ก็นั่งคุยกัน
“อันตรายมากเลยที่พรรคเพื่อไทยจะ ดัน พ.ร.บ.ปรองดอง มองในมุมเพื่อไทยอาจคิดว่าคุณทักษิณจะได้กลับบ้าน แต่มองอีกมุมหนึ่งคือผู้สั่งการแม่งหลุดหมด สุเทพ อภิสิทธิ์ คนเสื้อแดงจะรับได้หรือ-ไม่ได้ ผมไม่คิดว่าจะได้ ผมไม่เคยเห็นใครในเสื้อแดงบอกว่าให้เลิก เจ๊าๆ กันไป มีแต่บอกเอาคนผิดมาลงโทษ เรื่องนี้เปราะบางมาก ถ้ายังดื้อเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเพื่อไทยจะอธิบายกับประชาชนอย่างไร แล้วยังเป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามอีก จะถูกรุมทุกประตู เพื่อไทยที่อยู่ได้ตอนนี้ก็เพราะยึดแนวมวลชน มีมวลชนหนุนหลัง คุณผลักมวลชนเมื่อไหร่คุณเสร็จ คุณมีอะไร นักการเมืองคุณมีอะไร คุณผลักมวลชนเมื่อไหร่คุณหมดแล้ว มวลชนเขาไม่เอาเรื่องปรองดองแบบนี้ ไปนิรโทษให้ผู้สั่งการ”
- ในมุมคิดนักการเมือง เขาก็ต้องคิดว่าใช้แบบนี้มันจะกลับมานับหนึ่งใหม่แก้ปัญหาได้?
ผมว่าเขาคิดไม่ซับซ้อน อย่างเมื่อปีที่แล้วที่คุณทักษิณบอกว่าเป็นหน้าที่ผมเอง ขอให้เลิกกันไป ตอนนั้นก็ส่งสัญญาณมา แต่ปฏิกิริยามันตีกลับ ทักษิณก็ออกมาขอโทษตอนนั้นก็แสดงให้เห็นว่ามวลชนไม่เอา ทักษิณประเมินมวลชนต่ำ คือมวลชนก็รักทักษิณ แต่ถ้าให้เลือกเอาหลักการ ผมว่าหลักการใหญ่กว่าตัวทักษิณ แล้วทะเลาะกันตายเลย
แล้วเอาถึงที่สุดจริงๆ จะมีมวลชนจำนวนหนึ่งแตกแน่นอน โดยเฉพาะพวกแดงอิสระ พวกก้าวหน้ามากๆ คือแตกแน่นอน ถือว่าทรยศนะ ทรยศเลย
ประเด็น อยู่ตรงที่ว่า คุณจะขอนิรโทษให้กับคนสั่งฆ่าประชาชน เรื่องมุมมองร่างกฎหมายปรองดอง มันอยู่ที่แว่นที่ใส่มอง อีกกลุ่มมองว่าช่วยทักษิณ แต่เรามองว่าช่วยคนสั่งการ ดังนั้นเราไม่มีทางรับได้ จะยื่นเมื่อไหร่ก็รับไม่ได้อยู่ดี
- มองสิ่งที่คุณทักษิณสไกป์ปีนี้กับปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วบอกว่าขอขึ้นฝั่งแล้วเสื้อแดงไม่ต้องห่วงจะขอปรองดอง แต่ปีนี้บอกว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนเสื้อแดง มันสะท้อนอะไร?
ผมว่าวันนี้คุณทักษิณมีวุฒิภาวะมาก ขึ้น รู้ว่ามวลชนมีความเป็นอิสระ ถึงแม้จะคุยกับมวลชนจะดูว่ารักใคร่กันอยู่  ส่วนหนึ่งก็ยังคิดถึงแก แต่ว่าความเข้าใจได้ว่ามวลชนมีความเป็นอิสระ ก็ทำให้คุณทักษิณกลับมายึดหลักมวลชน
เรื่องการนิรโทษกรรมอะไรต่างๆ ผมมองว่ามันเป็นทางลัดในการกลับบ้านของคุณทักษิณ แต่ผมคิดว่าทางนี้ไม่สง่างาม คือผมยังเห็นว่าการที่จะไปใช้กระบวนการ คตส.กับคุณทักษิณ ไม่มีความเป็นธรรม แต่แกยังสามารถต่อสู้ได้ในกระบวนการยุติธรรมปกติ คือก็ต้องให้กลับบ้านแล้วมาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมปกติ ไม่ใช่การล้มล้างความผิดอันเป็นแนวทางแบบที่นิติราษฎร์เสนอ ผมคิดว่ามันแฟร์นะ เราต้องอยู่บนหลักนิติรัฐ นิติธรรม เมื่อกระบวนการ คตส.ไม่เป็นนิติธรรมก็ควรกลับมาสู่กระบวนการปกติ ก็คือกลับมาแล้วคดีก็เริ่มกันใหม่
แต่ปัญหาตอนนี้คือ มันติดตรงที่ยังล้มล้างกระบวนการคดีทางอาญาก่อนหน้านี้ได้ เพราะถูกรับรองโดย รธน.50 ถ้าจะมีการช่วยคุณทักษิณ ต้องช่วยให้เขากลับมาอย่างสง่างาม ไม่ใช่การนิรโทษกรรม การยกความผิดให้คุณทักษิณไม่ได้ทำให้คนไทยรู้สึกว่าคุณทักษิณไม่ได้ทำผิด แต่ต้องทำให้คุณทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ทุกฝ่ายยอมรับแล้วออกมา ว่าถูกหรือผิด
 แต่คนในพรรคก็พยายามรับใช้และ เอาใจคุณทักษิณ  แล้วก็อาจมีสายวงในบอกว่าเจรจากันเรียบร้อยแล้ว ผมว่าทักษิณคิดว่าดีลกับอีกฝ่ายหนึ่งจบ เลยออกตัวแรงเมื่อปีที่แล้ว เมื่อบอกมวลชนว่าให้จบ เพราะเชื่อนักการเมืองที่ห้อมล้อม
ผมว่าเรื่องปรองดองต้องเกิดจากการ คุยกันในสังคม แต่ตอนนี้อยู่ในโหมดของการต่อสู้กันอยู่ และแต่ละฝ่ายก็อยู่ในช่วงที่มองไม่เห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง มันต้องผ่านกระบวนการถอดบทเรียนว่าตัวเองผิดพลาดอะไรเสียก่อน แล้วค่อยๆ คุยกัน อะไรที่ยอมได้ก็ต้องยอม แล้วบางส่วนก็ต้องเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันยังแรงกันอยู่มาก ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ง่าย บาดแผลยังมีกันอยู่ แต่ละฝ่ายยังแยกเขี้ยวกันอยู่ เวลาเจอหน้าก็เฉาะกันแรงๆ ผมยังรู้สึกว่าภาษาที่ใช้มันโหดร้ายกันมาก
- มาถึงวันนี้เสื้อแดงข้ามพ้นทักษิณหรือยัง?
ทักษิณอยู่ข้างๆ แต่อาจล้ำอยู่หน่อย แต่ยังอยู่ในขบวนแต่จะมานำให้ซ้ายหันขวาหันคงทำไม่ได้ ไม่ล้ำหน้ามวลชน จะทำอะไรต้องปรึกษาหารือ ใจจริงผมอยากให้คุณทักษิณออกจากการเมือง ผมว่าเขายังติดอะไรบางอย่าง คือแกอาจจะรู้ว่าไม่อยากแพ้ แต่ไม่เลวนะ ถ้าสองปีกเจรจาต่อรองกันได้ อภิสิทธิ์-สุเทพออกมา แล้วคุณทักษิณลดบทบาทลง ปล่อยให้พรรคขับเคลื่อนไป โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงสนับสนุน พรรคจะมีความเป็นสถาบันการเมืองมากขึ้น แล้วความรู้สึกขัดแย้งในสังคมจะลดลงไปมาก
- พัฒนาการเสื้อแดงจากกลุ่ม 19 กันยาฯ ไม่เอารัฐประหารมาเป็น นปก. แล้วเป็น นปช. จนตอนนี้เริ่มมีแดงกลุ่มย่อยๆ อย่างกลุ่ม กวป.ที่ออกมาหน้าศาลรัฐธรรมนูญ อนาคตจะมีแดงกลุ่มย่อยๆ แบบนี้ออกมาอีกไหม?
ในโครงสร้างความเป็นเครือข่ายต้อง มีกลุ่มย่อยหลายกลุ่มมารวมกัน แต่ระหว่างการต่อสู้การจัดตั้งกลุ่มแบบนี้มาเกิดทีหลัง ก็ทำให้เกิดกลุ่มใหม่เช่นกลุ่ม กวป.ที่มาจากวิทยุชุมชน
ก็ยอมรับว่ามีจุด อ่อนอยู่บ้าง คือขาดความเป็นเอกภาพแต่อีกมิติหนึ่งก็ทำให้มีความคล่องตัว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือหลักการ ถ้าไม่ยึดมีปัญหา อย่างผมเลือกข้างแต่ไม่เข้าข้าง  คือรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องต้องช่วยกันแตะและเตือน อย่างกรณีพี่เจ๋ง ดอกจิก (ปราศรัยหน้ารัฐสภาพาดพิงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) ผมได้ยินแกพูดผมก็ไปแสดงความเห็นในเฟซบุ๊ก แล้วมีการอภิปรายกันหนักมากทันทีหลังแกพูด
การวิจารณ์แบบนี้สำคัญมากในขบวน อย่างกรณีอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่แกไม่เห็นด้วยที่คุณยิ่งลักษณ์ไปดำเนินคดีกับคุณชัย ราชวัตร การที่เสื้อแดงอยู่บนหลักไม่ได้อยู่บนตัวบุคคล อันนี้สำคัญมาก แล้วจะทำให้เรากลับมาอยู่ในที่ทางที่ถูกต้อง ก็จะเป็นการต่อสู้กันเองบนขบวนโดยสู้กันด้วยเหตุผล เช่นเดียวกับเสื้อเหลือง ก็เห็นการแตะกันเองอยู่ คือถ้าแต่ละฝ่ายต่างตบให้เข้ารูป แล้วแข่งในหลักการ เสื้อเหลืองก็ยืนในฝ่ายที่ตรวจสอบฝ่ายการเมือง  เสื้อแดงก็ยืนในหลักเรื่องกลไกอำนาจต้องโยงใยกับประชาชน มันก็เป็นการเคลื่อนของสังคมสมัยใหม่
- แต่เสื้อแดงเองที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีบทบาทในด้านการตรวจสอบรัฐบาลในโครงการ หรือนโยบายต่างๆ เลย ในช่วงปีกว่าของรัฐบาลชุดนี้ที่มีหลายโครงการถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความไม่ โปร่งใส เช่น การรับจำนำข้าวหรือโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท?
คือมันอยู่ในโหมดของสงคราม ก็ทำให้สารสนเทศของอีกฝ่ายที่ส่งเข้ามามันไม่ชัด มันใส่สีตีไข่เยอะ พอมีการวิจารณ์ก็ทำให้การรับฟังไม่มีเหตุผล เช่น เรื่องข้าวเน่า ผมว่ามันเวอร์ไป อย่างผมก็มีรายการของตัวเองทางสื่อ ผมก็วิจารณ์เลยหัวข้อปลอดประสพภัย ผมก็วิจารณ์เลยคุณปลอดประสพและพวกเชียงใหม่ 51 แล้วถ้าผมไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเรื่องไหน ผมก็ใส่เลยตามสไตล์เอ็นจีโอ
ผมก็ยังวิจารณ์รัฐบาลอยู่ แต่เวลาผมฟังอีกฝ่ายวิจารณ์มา ผมรู้สึกมันเวอร์ แล้วถ้าฝ่ายเดียวกันวิจารณ์อะไรที่ผมเห็นว่ามันเวอร์ เช่นบอกว่า 3 จียังไม่เกิดเพราะอำมาตย์ไม่ต้องการให้มี 3 จี มันไร้สาระไหม ผมก็บอกว่าไม่ได้ มันเวอร์ ฟังกันเองยังฟังไม่ได้เลย มันต้องอยู่บนเหตุผล
- มองบทบาทการนำเสื้อแดงของอาจารย์ธิดา ประธาน นปช.ในช่วงที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง?
หลักการแกดี อาจมีปัญหานิดหน่อยกับมวลชนบางส่วนที่อาจารย์ธิดาแกอาจแข็ง ก็อาจทำให้มีมวลชนบางกลุ่มมีปฏิกิริยา เช่น คุณขวัญชัย ไพรพนา ก็เลยมีปัญหากัน มันเป็นเรื่องปัญหาเชิงบุคลิกและความสัมพันธ์ และภาษาที่แกใช้ซ้ายมาก ที่ปกติไม่มีคนเขาใช้กัน ภาษาที่เขาใช้มันชัดมาก แต่ยืนยันว่าอาจารย์ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ ผมว่าแกไม่ค่อยมีวิธีการขับเคลื่อนมวลชนในรูปแบบใหม่ แกไม่มีโลกทัศน์ด้านนี้เลย นปช.ก็เลยใช้การเคลื่อนไหวมวลชนแบบในอดีต  แต่รูปแบบใหม่ๆ ไม่มี นัดชุมนุมแล้วก็ตั้งเวที ทั้งที่โลกตอนนี้มันไปไกลมาก ดูอย่างการชุมนุม Occupy Wall Street ที่ประท้วงหน้าวอลสตรีท ที่มีความสนุกสนาน อลังการ และสอดคล้องกับชนชั้นกลางมาก
 ผมก็เสียดายถ้าอาจารย์ธิดาอายุ น้อยกว่านี้หน่อยสัก 40-50 ปี ก็จะทำให้การสื่อสารร่วมสมัยกว่านี้ แต่ตอนนี้แกสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ไม่ได้เลย ด้วยท่วงทำนองรูปลักษณ์แกทั้งหมด แต่ในความเป็นประธาน นปช.อาจารย์ธิดาทำได้ดี. 

                   โดย วิจักรพันธุ์ หาญลำยวง
                            วรพล กิตติรัตวรางกูร
……………………..
สายเหยี่ยวต้องลดบทบาท
เปลี่ยนลุกส์ รุกคืบชนชั้นกลาง  

    ผ่านไปแล้วกับงานครบรอบ 3 ปีรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุม 19 พ.ค.53 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่หลายคนสงสัยก็คือ ทิศทางการนำมวลชนคนเสื้อแดงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะแม้เสื้อแดงระดับแกนนำบางส่วนอาจมีปัญหากันบ้าง แต่ภาพรวมยังต้องถือว่าเสื้อแดงค่อนข้างจะเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น แต่ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวบางจังหวะก็ทำให้สังคมไม่เห็นด้วย อาทิ การชุมนุมขับไล่หรือปิดล้อมเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์แทบทุกสัปดาห์ 

    “สมบัติ” แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ก็ยอมรับว่า ท่าทีดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์คนเสื้อแดง และสิ่งหนึ่งที่ควรต้องทำคือ ในกลุ่มเสื้อแดงด้วยกันเองต้องออกมาเตือนให้ยกเลิกพฤติการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ยังได้วิเคราะห์ระยะห่างของเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยว่า หากสุดท้ายไปด้วยกันไม่ได้เพราะเกิดความไม่เข้าใจกัน นั่นก็ถึงคราวต้องแยกกันเดิน 

    - ที่บอกว่าแต่ละฝ่ายต้องทบทวนบทเรียนความผิดพลาดของฝั่งตัวเองและเสื้อแดง ว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง?
เรื่อง การเคลื่อนของเสื้อแดงในปี 52 และ 53 ผมมองว่ารูปขบวนคนเสื้อแดงไม่ได้พิจารณาแนวร่วมที่เป็นคนชั้นกลางเลย ไม่มีแนวร่วมชนชั้นกลาง ไม่มียุทธศาสตร์ชนชั้นกลางเลย เพราะคิดว่าปริมาณการทำแนวร่วมกับคนรากหญ้าเพียงพอแล้ว แล้วก็คิดว่าแดงทั้งแผ่นดินจะลงไปที่รากหญ้าเหล่านั้น แต่การละเลยคนชั้นกลางทำให้การเคลื่อนไหวของเราบางเรื่องผิดพลาด 

ผมคิดว่าการปิดสี่แยกราช ประสงค์ปี 53 เป็นเรื่องผิดพลาดสาหัส เรื่องนี้พลาดที่สุด เพราะราชประสงค์เป็นแปลงนาของคนกรุงเทพมหานคร ราชประสงค์เป็นที่ผลิต ที่ทำกินเลย และยังเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก ซึ่งห้างสรรพสินค้าในความหมายของคนกรุงเทพฯ มันคือวัด มันเป็นศูนย์กลางของผู้คนที่สำคัญมาก ที่เขาจะไปดูหนัง กินข้าว ช็อปปิ้ง กิจวัตรคนกรุงเทพฯ เป็นเช่นนี้ 

คุณปิดแม่งตั้งแต่สยามพารากอน ไล่มาสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ มาบุญครอง คุณปิดมันเกือบ 2 เดือน มันพลาดจนผมไม่รู้จะพลาดยังไง

ผมคิดว่ามันเป็นการผิดพลาดใหญ่ มาก มันเกิดจากการที่คุณไม่คิดว่าชนชั้นกลางเป็นแนวร่วม คุณไม่มียุทธศาสตร์ตรงนี้เลย นอกจากไม่ดึงเป็นแนวร่วมแล้วคุณยังผลัก ทำให้พออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ศอฉ.เคลื่อนก็เลยมีเสียงสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลว่าต้องทำ แกนนำไปคิดว่าที่คนมาขนาดนั้นจะทำให้รัฐบาลเข้าสู่การเจรจาแล้วยุบสภาฯ เลย แต่อภิสิทธิ์ก็ไม่ยอม 

- มาถึงวันนี้สิ่งที่ นปช.-เสื้อแดงควรทบทวนท่าทีและการเคลื่อนไหวมีอะไรบ้าง?

ผมคิดว่ากลิ่นอายแบบ ฮาร์ดคอร์มีปัญหามาก อย่างการไปที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ปี 53 ก็พลาดใหญ่มาก อาการประเภทเลือดเข้าตาแล้วทำแบบนี้ต้องเลิก ประเภทแบบไปไล่ทุบรถอภิสิทธิ์ต้องเลิก 

ให้สรุปเลยคือ พวกฮาร์ดคอร์ทั้งหลายสายเหยี่ยวต้องลดบทบาทลงไป เลิก มันสร้างวัฒนธรรมสายเหยี่ยว สร้างมวลชนเป็นเหยี่ยว ต้องเลิก แล้วมันจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็อย่างที่คุณเห็นสภาพเละ แล้วคนจะไม่สงสารด้วย น่าเสียดายมาก ทั้งที่รัฐแม่งเอากำลังทหารยิงประชาชนแบบป่าเถื่อน แต่คนจำนวนหนึ่งไม่สงสาร ทั้งที่รู้ว่าคนโดนยิงโดนทหารยิง ไม่ใช่คนเสื้อดำ กองกำลังติดอาวุธ แต่เขากลับไม่สงสาร เพราะเสื้อแดงบางคนไปขยับในแนวสายเหยี่ยว
ผมคิดว่า อันนี้ผิดพลาด ทั้งที่เราฟื้นเสื้อแดงเราฟื้นจากแนวทางสายพิราบ ในทางการเมืองเราชนะในทางการเมือง เพราะเราไม่สามารถเอาชนะด้วยกำลังทหารกับฝ่ายอำมาตย์ได้เลย เพราะเราไม่มีกองกำลัง สิ่งที่ผมคิดผมพูดแบบนี้เวลานั้นก็ไม่ได้รับการยอมรับ ทั้งที่ผมก็คิดว่าตอนนั้นแนวที่ทำไม่ใช่

 ดังนั้นสายเหยี่ยวทั้งหมดต้อง ยุติ ต้องหยุด รีอิมเมจ ปรับขบวน ต้องปรับให้เป็นแนวกลุ่มศึกษาใช้มิติทางวัฒนธรรมให้เป็นกลุ่มมวลชนศึกษา ทำมิติภาคประชาสังคม ทำไมเสื้อแดงคุยกันแต่เรื่องการเมือง เรื่องมิติโครงสร้างทางการเมืองเท่านั้น ทำไมไม่ทำประเด็นอื่นล้อไปด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เสื้อแดงทิ้งเรื่องเหล่านั้น ทำไมขบวนการเสื้อแดงที่เป็นขบวนการประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ ไทย ทำไมคุณไม่ทำเรื่องอื่นด้วย เพราะถ้าไปทำเรื่องอื่นด้วยจะทำให้ลดเลิกการจดจ่อแล้วการแสดงออกมันจะไม่ออก แนวเหยี่ยว 

ผมไม่เห็นเลยว่าไปทำเรื่องอื่น ไม่มีเลย อย่างเรื่องแท็กซี่เอื้ออาทรที่แท็กซี่เสื้อแดงทำกันเอง ก็ไม่ได้เกิดจาก นปช. แต่เกิดจากพวกเขานั่งคุยกันเอง เหมือนอย่างที่มีพีมูฟทำ ถ้าเปลี่ยนพลังเหล่านี้เป็นพลังการขับเคลื่อนของสังคมได้ เสื้อแดงจะเปลี่ยน มันจะมีคุณค่าและทำให้คนเข้าใจได้ จะทำให้คนมองเสื้อแดงเปลี่ยนไป 

แล้วต้องลดเขี้ยวเล็บลงเอาลง ให้หมด แล้วเคลื่อนตรงนี้จะเป็นวิธีการปรองดองที่ดีที่สุด คือเปลี่ยนลุกส์แล้วใช้หลักนิติรัฐ ต้องไม่ใช่แบบที่เชียงใหม่ 51 ทำ แล้วไม่ใช่แบบที่อภิสิทธิ์ไปปราศรัยแล้วไปประกาศจับตัว 

ในมุมผม ทุกครั้งที่เสื้อแดงขับเคลื่อนการเมืองแบบนี้เราเสียหายทางการเมืองทุกครั้ง พวกแดงสายพิราบลำบากมาก เราไม่เคยทำให้เสียแต้มกับเรื่องแบบนี้เลย 

- ที่ออกมาแบบนี้เป็นเพราะแกนนำคุมกันไม่ได้หรือว่าขยิบตาให้?

มันคุมไม่ได้จริงๆ ตอนนี้คุมไม่ได้ เวลาคุณทำอะไรพลาด สิ่งที่เสื้อแดงต้องทำคือวิจารณ์ภายใน ช่วงหลังผมพูดเรื่องนี้เยอะ ลุยแหลกวิจารณ์เลย ทำแบบที่อลงกรณ์ พลบุตร ทำ ผมชอบมากเลย ผมว่าทุกปีกต้องมีคนออกมาพูดแบบนี้ อย่างเสื้อเหลืองผมก็ฟังคุณคำนูณ สิทธิสมาน วิจารณ์กันเอง ผมคิดว่าต้องมีการแตะกันภายในขบวนกันเอง เพราะถ้าเป็นคนนอกขบวนแตะ จะรู้สึกว่าไอ้นี้มันทิ่มกู 

อย่างทักษิณไปพูดเรื่องปฏิรูป พรรคประชาธิปัตย์แบบนี้ก็ถือว่าทิ่ม อย่างในเสื้อแดงเวลาผมแตะ อย่างน้อยที่สุดพวกกันมันยังฟังสิ่งที่ผมทำ คือผมพยายามรวบรวมคนกลุ่มที่มีความเห็นว่าต้องมีการปฏิรูปกันภายในขบวนแล้ว ก็เริ่มปรับกัน แต่พวกเหยี่ยวก็ยังแข็งแรง บางคนก็ไม่อยากฟังแล้วก็รู้สึกว่ามันยังชอบธรรมอยู่ 

- หมายถึงว่าต้องปฏิรูปเสื้อแดง?

ผมก็อยากปฏิรูป แต่ผมก็ทำได้แค่นี้ ผมไม่มีองค์กรเลยนะ ไม่มีการจัดตั้งมวลชนเลยนะ เวลาผมทำกิจกรรมก็ไม่ต้องการคน ขายความคิดอย่างเดียว ผลิตความคิด 

- เพราะว่า นปช.ส่วนกลางเป็นนักการเมืองหรือเปล่า วิธีคิดก็เลยคิดแบบนักการเมือง คำนึงถึงเรื่องฐานเสียง?

ผมคิดว่าเขาใกล้พรรคมากไปหน่อย ผมพูดเรื่องนี้กับอาจารย์ธิดา ประธาน นปช.เหมือนกัน คือเขาใกล้ไป 

- สุดท้ายจะมีการไปทำพรรคการเมืองแบบพรรคเสื้อแดงกันได้ไหมหากมองในระยะยาว?

ถ้าแตกเมื่อไหร่ก็มี พรรคการเมืองแน่นอน ถ้าแตกนะ ถ้าแตกก็มี 2 ทาง คือไปเป็นพวกโหวตโนเหมือนพวกพันธมิตรฯ คือแดงโหวตโนเลย หรือไม่ก็ต้องตั้งพรรคการเมือง ถ้าแตกนะ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะปรับตัวได้หรือไม่ ต้องมีลักษณะเป็นพรรคมวลชน ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยต้องปรับตัวเรื่องนี้ ผมคิดว่าตอนที่อลงกรณ์ พลบุตร วิจารณ์ไปที่พรรคเพื่อไทยมันตรงมาก คือความเป็นสถาบันพรรคการเมืองเพื่อไทยมีน้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์อย่างเด่น ชัด
 ดังนั้นเพื่อไทยต้องปรับตัวเป็นสถาบันให้มาก ไม่รู้ผมคาดหวังมากไปหรือเปล่าว่าวันหนึ่งจะเป็นพรรคมวลชน แต่ประเทศไทยต้องมีพรรคที่มาจากข้างล่างจริงๆ ถ้าไม่มีเรื่องเหลืองแดง ป่านนี้ต้องมีพรรคที่ 3 ขึ้นแล้ว แต่ที่ไม่มีเพราะยังอยู่ในโหมดสงครามการต่อสู้ น่าเสียดายมาก 

- ที่บอกว่าเสื้อแดงพลาดที่ไม่ได้หาแนวร่วมจากชนชั้นกลาง ทำไมให้ความสำคัญกับชนชั้นกลางมาก?

เพราะจะทำขบวนการ ประชาธิปไตยได้อย่างไร ถ้าไม่ให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม จะทำการเมืองภาคประชาชนโดยมีแต่คนรากหญ้าได้หรือ จะทำแบบเขมรแดง พอชนะแล้วเอาอีกฝ่ายมาไถนาหรือ มันควรมาจากคนทุกกลุ่มให้มามีส่วนร่วมและเข้าใจได้ 

เสื้อแดงต้องทำให้คนในสังคม เข้าใจได้ คนที่ต่อต้านเสื้อแดงเขาโคตรไม่เข้าใจเสื้อแดงเลย คือเป็นพวกกูไม่เข้าใจเลยมึงเป็นแดงได้ยังไง ผมโดนหนักมากเลย หลายคนมาถามทำไมหนูหริ่งเป็นแดงวะ บอกกูไม่เข้าใจมึงเลย 

- แล้วแดงหนุนแก้มาตรา 112 ต้องปรับไหม?

แดง 112 ต้องไม่ก้าวร้าว การแสดงออกแบบก้าวร้าวต้องลดลง อาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกไม่ก้าวร้าวนะ แต่แกแรงในหลักการ แต่พวกที่ตามมาเด็กที่ตามมา ผมรู้สึกว่าก้าวร้าว ผมคิดว่าเป็นแนวร่วมมุมกลับที่เขารักสถาบัน ซึ่งผมว่าไม่จำเป็นเลย ผมไม่คิดว่าขบวนการที่เรียกร้อง 112 ไม่ควรต้องท้าทายก้าวร้าวขนาดนี้ ต้องปรับรูป คือท้าทายในหลักการยังพอได้ คือผมคิดว่าคนในสังคมเริ่มที่จะปรับให้อยู่ในระดับการวิพากษ์วิจารณ์ยังพอ ฟังกันได้ โดยเฉพาะพวกปัญญาชนที่อยู่ในฝั่งเสื้อเหลือง แต่ต้องไม่เลยการวิจารณ์ แต่ต้องไม่ใช้เสรีภาพในการด่าทอเหยียดหยาม อันนี้เขาจะรับไม่ได้ เขาจะฮึดออกมาเยอะเลย 

ผม คิดว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรณรงค์อะไรแล้ว อาจารย์วรเจตน์ก็เคยบอกอยากให้ผมไปช่วย ผมมาคิดแล้วไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วยนะ แต่ผมช่วยไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือเวลาและการคุยกันแบบมีวุฒิภาวะ โดยอาจมีคนกลางมาช่วยให้มีการพูดคุย
 …………………………..

อย่าหักหลังเสื้อแดง
        ปรองดองฝังในสุสาน 


หนึ่งใน ส.ส.เพื่อไทยที่ออกมาคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
“นพ.เชิด ชัย ตันติศิรินทร์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธาน นปช. 20 จังหวัดภาคอีสาน ที่เป็น 1 ในหัวหอกที่ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กับพวก วรชัย เหมะ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แม้ นพ.เชิดชัยจะเป็น 1 ใน 163 ส.ส.เพื่อไทยที่ร่วมลงชื่อกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองด้วยก็ตาม!
ก็ในเมื่อร่วมลงชื่อเอาด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แล้วมาคัดค้าน มันดูแปลกๆ หรือไม่ หรือว่าเป็นการเล่นการเมือง 2 หน้า คือเอาด้วยกับเฉลิมที่ต้องการพาทักษิณกลับประเทศไทย แต่ก็เอาด้วยกับการเอาใจคนเสื้อแดง ไปฟังคำอธิบายจาก นพ.เชิดชัย? 

...การเสนอร่างพระราชบัญญัติ ต่างๆ เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ส.ส.เสนอกฎหมายได้ เมื่อเซ็นชื่อไปแล้วก็ต้องไปฟัง วาระ 1 รับหลักการไปดูว่าเข้าท่าไหม ดูรายละเอียดครอบคลุมอะไร ลงมติว่าจะเอาด้วยไหม จะนิรโทษแต่ไปดูในเนื้อหาที่จะนิรโทษให้ทุกฝ่าย จะไม่เกิดประโยชน์ จะเป็นโทษมากกว่าอีก เขาก็ไม่รับ
"ร่างของคุณเฉลิมให้ผมเซ็น ก็เซ็นให้ ไม่มีปัญหา แต่ต้องไปว่าในสภาฯ เข้าท่าไหม กับฟังเสียงประชาชน สถานการณ์เปลี่ยนไปได้ เพราะกฎหมายออกมามีผลผูกพัน"

อย่างไรก็ตาม แม้ นพ.เชิดชัยจะไปร่วมลงชื่อให้กับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของเฉลิม แต่เจ้าตัวก็ยืนกรานว่า สุดท้ายยังไงต้องเอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ผ่านมีผลบังคับใช้ได้ก่อน ส่วน พ.ร.บ.ปรองดองวิเคราะห์แล้วยาก
…ส่วน พ.ร.บ.ปรองดอง ท่านเฉลิมก็พูดในพรรค ท่านอธิบาย ส.ส.ด้วยความเกรงใจก็ลงชื่อให้ แต่คนอื่นเข้าใจไหม พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจหรือไม่ ต้องไปอธิบายกับฝ่ายค้านด้วย ประโยชน์เป็นอย่างไร และ พ.ร.บ.นี้ต้องอธิบายกับประชาชนให้ถ่องแท้ด้วยว่าเป็นอย่างไร 

ภาวะตอนนี้คนเสื้อแดงไม่อยาก นิรโทษกรรมให้สุเทพ เทือกสุบรรณ, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะว่ามันชัดเจน เขาต้องรับผิดชอบ เพราะศาลบอกคนตายจากฝีมือรัฐด้วยคำสั่ง ศอฉ. ก็ต้องไปพิสูจน์ คำสั่งชอบธรรมหรือไม่ ถ้าชอบธรรมก็หลุด ไปสู้คดีทำไมต้องนิรโทษให้

    ส่วนแกนนำเสื้อแดงประกาศไม่ขอรับอานิสงส์ แกนนำเสื้อเหลืองยังไม่ได้ประกาศ มีใครประกาศหรือยัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก็ยังไม่ได้ประกาศ ไม่ต้องมานิรโทษให้ผม เพราะฉะนั้นคนเสื้อแดงไม่เห็นด้วย คิดว่าคนเสื้อเหลืองคิดเหมือนเสื้อแดงไม่ได้มีความผิดที่มาชุมนุม ไหนๆ กำหนดความผิดในช่วงนั้นให้เขาเหอะจะได้ไม่มีปัญหา ในพรรคเพื่อไทยที่ขัดแย้ง แตกแยก คงไม่ใช่ ต้องใช้เวลาในการอธิบาย แต่แน่ๆ มติพรรคสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
…ที่บอกในเพื่อไทยแตกแยกแบ่ง 2 ฝ่าย-ไม่ใช่ มติพรรคถือเอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของคุณวรชัย ร่วมกับ 42 ส.ส. เพราะกว่าจะเลื่อนขึ้นมาได้ ส.ส. 40 คนไปเดินสายอธิบายคนในพรรค เรามาขอร้องให้เห็นกับประชาชน ขอให้ช่วยกัน พรรคเลยมีมติให้เลื่อนวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาในเดือนสิงหาคม และยังไปเดินสายกับผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคร่วมรัฐบาลหลายคน ให้เขาสื่อไปยังสมาชิกว่าอย่าไปคัดค้านมากนัก
 ...เราเชื่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมถูกใจชาวบ้านที่เดือดร้อน นักการเมืองไม่เป็นอะไร ไปว่ากันในสภาฯ แล้วจะทำใจจืดใจดำให้เขาอยู่ในคุกเป็นผู้ต้องหาบ้าง รอระหว่างดำเนินคดีก็มี แต่นี่เป็นการเยียวยาชนิดหนึ่งจะได้นำไปสู่การปรองดองที่แท้จริง เริ่มจากประชาชนส่วนใหญ่ก่อน 

- เปิดสภาฯ 1 ส.ค.56 พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะผลักดันให้สำเร็จจบ 3 วาระในสมัยนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้กันช่วงปีหน้าเลยหรือไม่?

คิดว่าไม่น่ามีปัญหา แรงต้านคงน้อย เขาคงต้องการไปเคลียร์เนื้อหาข้างในเฉยๆ ว่าเนื้อหาคำนี้หมายถึงใคร แต่เรากำหนดชัดเจนไม่รวมแกนนำ ไม่รวมผู้สั่งการ ไม่รวมทางแพ่ง อาญายกให้เฉพาะความผิดบางอย่าง
น่าจะเป็นของขวัญปีใหม่เลย แหละ คือช่วงนี้มี พ.ร.บ.งบประมาณ 57 เปิดวิสามัญก็คงไม่มีอะไร ส่วน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ก็ยังไม่เสร็จ แก้รัฐธรรมนูญก็ยังไม่ไปถึงไหน

- แต่ก็มีการยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง?

ก็ไม่มีปัญหา ขั้นตอนการยื่นกฎหมายคือก้าวแรกไปยื่นให้ประธานสภาฯ ตรวจสอบ ถ้าถูกต้องค่อยสั่งบรรจุ และต้องไปท้าย ถ้าจะเลื่อนก็ต้องเสนอเลื่อนมา อธิบายให้สมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจจะเอาด้วยหรือไม่

 เมื่อเลื่อนได้ต้องดูอีกจะ พิจารณาร่วมกับ พ.ร.บ.นิรโทษ จะอภิปรายร่วมกัน พิจารณาพร้อมกันได้หรือไม่ ก็คงไม่ได้ มันคนละหลักการ เห็นไหมขั้นตอนเยอะ ปัญหาคือจำนวน ส.ส.ที่ไปร่วมลงชื่อร้อยกว่าคนแล้วมันจะผ่านไหม 

- สไกป์ทักษิณเมื่อ 19 พ.ค. พูดแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่พูดถึง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่ก็มีการมองกันว่าหากทักษิณไปพูดเรื่องกฎหมายปรองดองวันนั้นอาจไม่เหมาะ แต่ไม่แน่เปิดสภา 1 ส.ค. อาจหันมาดัน พ.ร.บ.ปรองดองก็ได้? 

ไม่มีแน่นอน ไม่หักหลังเสื้อแดง ท่านทักษิณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านเกรงใจท่านเฉลิม ไม่พูดถึงเพราะยังไม่เข้าสู่กระบวนการ เป็นเพียงความคิด และพอเปิดสภาฯ เดือนสิงหาคม ถ้าพูดตามความจริง ก็ไม่ได้ จะเลื่อนวาระ อ้าวก็มันมีอยู่แล้วลำดับหนึ่งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องพิจารณาลำดับหนึ่งก่อน การจะมาขอเลื่อนตัดหน้าเขาไม่ทำ ส่วนใหญ่ให้พิจารณาลำดับหนึ่งก่อน จะพิจารณาอะไรก็ต้องขอมาแทรก แล้วท่านทักษิณก็ประกาศแล้วไม่รับอานิสงส์จาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ทนได้ที่อยู่ต่างประเทศ เอาความทุกข์ประชาชนแก้ไขให้เขาก่อน

ยุคนี้สื่อสารมันเร็ว เพื่อป้องกันความขัดแย้งในพรรค ควรพูดตามกติกาที่มีอยู่ ไม่ใช่คิดเอง ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ไม่ได้ ในฐานะเป็นตัวแทนประชาชนต้องมองความจริง อย่าไปใส่ในสิ่งที่ผิด เบี้ยวไป 

เมื่อถามว่า ประเมินว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ จะถึงทางตันหรือไม่ หลังเสนอร่างกันไ
ป “นพ.เชิดชัย” ตอบว่า
“ไม่ตัน แต่คงไปอยู่ในกลุ่มกฎหมายปรองดองที่ดองอยู่ ปรองดองจริงๆ ลงไปดองอีกฉบับเหมือนกฎหมายปรองดองก่อนหน้านี้ก็ไปอยู่ในสุสาน ดูแล้วโอกาสยาก จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ ดีขึ้น จะทำบ้านเมืองให้เย็นขึ้นต้องนิรโทษให้คนส่วนใหญ่ก่อน” 

- สรุปว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองในช่วงรัฐบาลชุดนี้ ไม่ควรเอาขึ้นมาพิจารณากันในสภาฯ เลยใช่หรือไม่? 

ต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ ท่านทักษิณคงรอรัฐธรรมนูญใหม่ ก็สงสารท่าน สมัยหน้าเมื่อตอนนั้นมีรัฐธรรมนูญใหม่ ประชาชนมาช่วยกันร่าง บ้านเมืองคงดีขึ้น ท่านทักษิณก็คิดถึงบ้าน อยู่เมืองนอกนานๆ ไม่ได้กลับประเทศ มันคิดถึงบ้านนะ ท่านไม่มีโอกาสมาเลย คนเสื้อแดงร้อยละ 80-90 ชอบประชาธิปไตยและศรัทธาท่านทักษิณ พวกที่ศรัทธาประชาธิปไตยจริงๆ ก็มี โดยไม่ต้องพูดถึงท่านทักษิณก็มี แต่น้อย จะให้แยกก็ไม่ได้ เป็นความผูกพันตามธรรมชาติ เพื่อไทยก็พัฒนามาจากพรรคไทยรักไทย ไม่พูดถึงทักษิณจะไปพูดถึงใคร 

เสื้อแดงเชียร์ทักษิณก็เชียร์ เพื่อไทยโดยปริยาย ส่วนนิดๆ หน่อยๆ ต้องการไซด์ไลน์ก็รับฟังได้ เอาเรื่องใหญ่ แก้รัฐธรรมนูญก่อน แก้เสร็จท่านทักษิณจะมีความผิดหรือไม่มีความผิด จะทำตามกฎหมาย จะมาพิจารณาก็ว่ากันไป หรือออกนิรโทษกรรมให้ทุกคนก็ว่ากันกัน ช่วงนั้นนายมาร์ค, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อาจถูกจำคุกแล้วก็ได้ มันจะเป็นตัวเหมาะพอดี แต่ที่ไม่เห็นด้วยคืออย่าให้มีชนวน อย่าไปก่อเหตุ คุณคิดได้เขาก็คิดได้ คุณทำได้เขาก็ทำได้ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และแก้วสรร อติโพธิ จากไทยสปริง ใช้ไม่ได้ เป็นเวอร์ชั่นเก่า ตอนนี้เป็นเรื่องอนาคตลูกหลาน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น