แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556

รอลงอาญา 2 ปี 'ปราโมทย์' คดีหมิ่น 'ทักษิณ' กรณี 'ปฏิญญาฟินแลนด์'

ที่มา ประชาไท


ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนรอลงอาญา 2 ปี "ปราโมทย์ นาครทรรพ" เขียนบทความปฏิญญาฟินแลนด์หมิ่น"ทักษิณ" ศาลระบุเป็นนักวิชาการ-นักประชาธิปไตย เคยสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ที่กระทำผิดเพราะต้องการปกป้องสถาบันที่เคารพ ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญาไว้
 
5 เม.ย. 56 - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงาน ว่าศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1747/2549 ที่พรรคไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระและคอลัมนิสต์ ,บริษัทแมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) , น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ , นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ผู้จัดการรายวัน และนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ ผู้ดูแลเว็บไซต์ผู้จัดการ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332 , 393
 
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า ระหว่างวันที่ 17 - 25 พ.ค.49 จำเลยทั้งห้า ร่วมกันตีพิมพ์และเผยแพร่บทความ “ ยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ : แผนการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย ? ” ของจำเลยที่ 1 ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ ซึ่งใส่ร้ายโจทก์ทั้งสองเสื่อมเสียชื่อเสียง
 
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 มี.ค.52 เห็นว่า บทความเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ 5 ตอนที่เผยแพร่ใน นสพ. ผู้จัดการและเผยแพร่ในเว็บไซต์ ที่จำเลยที่ 1 เขียนพาดพิงถึงโจทก์ทำนอง ว่ามีนโยบายที่ต้องการทำลายระบบราชการไทย การสร้างระบบการเมืองพรรคเดียว และล้มล้างสถาบันเบื้องสูง แต่ชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 กลับไม่นำสืบว่าโจทก์ทั้งสองกระทำการล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด ขณะที่ท้ายบทความยังได้ให้ประชาชนต่อต้านโจทก์ทั้งสองที่กำลังลงสมัครรับ เลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 เม.ย.49 ซึ่งไม่ได้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ส่วนจำเลยที่ 4 เป็น บก.ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ผู้จัดการรายวัน มีหน้าที่กลั่นกรองเนื้อหาก่อนตีพิมพ์
 
จึงเชื่อว่าจำเลยที่ 4 มีส่วนรู้เห็นและทราบว่าบทความดังกล่าวมีเนื้อหาดูหมิ่นโจทก์ด้วย จึงให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ 4 คนละ 1 ปี และปรับคนละ 100,000 บาทแต่จำเลยที่ 1 เป็นนักวิชาการ นักประชาธิปไตยและจำเลยที่ 4 เป็นนักหนังสือพิมพ์ เคยสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ที่กระทำผิดเพราะต้องการปกป้องสถาบันที่เคารพ ประกอบกับจำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกัน โฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์รายวัน 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วันติดต่อกันด้วย โดยให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 5
 
ต่อมาจำเลยทั้งสอง ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามฟ้องที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นชอบแล้วจึงพิพากษายืน แต่ในส่วนจำเลยที่ 4 เห็นว่า ยังไม่มีมูลว่ากระทำการที่เป็นความผิด จึงพิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น