แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิวาทะ วีรพัฒน์-สมศักดิ์ กรณีนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง

ที่มา ประชาไท

 จากกรณีวิวาทะในแวดวงปัญญาชนเริ่มจากข้อเสนอ  ‘แนวทางการบรรเทาความขัดแย้งและนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง’ ของ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์   จนนำสู่การโต้เถียงประเด็นต่างๆอย่างยากจะหาข้อยุติทั้งในพื้นที่สือออนไลน์ และบนพื้นที่ โซเชียลเน็ตเวอร์ค ประชาไทได้เลือกข้อถกเถียงในประเด็นที่มีความสำคัญเนื่อง จากเป็นจุดต้นเรื่องและยังมีความสำคัญต่อเสรีภาพของผู้ต้องขังการเมืองใน ปัจจุบันมาเผยแพร่





สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผมดูที่คุณ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ออกรายการ "มองรัฐสภา" แล้วนะ ก็ยืนยันเหมือนเดิมคือ คุณวีรพัฒน์ "เสนอ แบบไม่ได้เสนอ" คือจริงๆที่พูดๆๆทั้งหมดน่ะ ถ้าไม่dazzled(ตาลาย)ไปกับการพูดฉะฉานแบบ"ยิงเป็นไฟ" ของคุณวีรพัฒน์

ไม่มีอะไรเลยจริงๆ Nothing, absolutely nothing

คือสรุปได้ เพียงว่า คุณวีรพัฒน์ บอกว่าตอนนี้มันมีการทะเลาะกัน (แหม ใครบ้างทีไม่รู้ มันทะเลาะกันมาทุกเรื่อง มาหลายปีแล้วสมัย คอป. ออกรายงาน ก็ทะเลาะ สมัย พรบ.ปรองดอง ก็ทะเลาะ แก้ รธน. ก็๋ทะเลาะ)

แล้วคุณวีรพัฒน์เลยเสนอว่า "ถ้างั้น มาคุยกัน" ..... แหม ถ้าแค่ "คุยกัน" แล้วแก้ปัญหาได้ มันคงแก้ไปเป็นชาติแล้วมั้งครับ

ประเด็น จริงๆ ของคนที่เขาเสนอให้นิรโทษกรรมคือ ให้รัฐบาล (และสภาฯที รบ.เป็นเสียงข้างมาก) ใช้อำนาจในเชิงบริหารจัดให้มี กม.นี้ ไม่ว่าจะมีคนคัดค้านหรือไม่ คือ ถ้ามีไม่มากก็ดี แต่ต่อให้มีคนคัดค้าน ไม่เห็นด้วย ก็ให้ทำไป
 
เพราะนี่ก็เหมือนนโยบายอื่น เช่น จำนำข้าว รถคันแรก แจกแท็บเล็ต ฯลฯ ซึ่งทุกเรืองนี้ล้วนมีคนไม่เห็นด้วย เห็นไม่ตรงกัน ทะเลาะกันทังนั้น เรามิต้องเสนอให้ "เปิดพื้นที" คุยทุกเรืองพวกนี้หรือ? เป็นเรื่องของการ "บริหารประเทศ" ครับ
 
ดังนั้นการเสนอแบบคุณวีรพัฒน์ (นี่ผมสรุป) ว่า "ตอนนี้มันมีความเห็นขัดแย้งไม่ลงลอยกันมากมาย ดังนั้นเราต้องมา "เปิดพื้นที คุยกัน" ก็คือเท่ากับศูนย์ คือไม่ได้เสนออะไรนันแหละ
 
เพราะ (ก) มันทะเลาะกันมานานแล้วทุกเรือง และ (ข) ถ้าแค่บอกว่า "คุยกัน" สามารถแก้ปัญหาได้มันแก้ไปนานแล้ว (นี่ไม่ได้ปฏิเสธว่า รบ. ต้องพยายามทำความเข้าใจ หรือต้องพยายาม "หาเสียงสนับสนุน" รวมทังจากฝ่ายค้านด้วย ถ้าทำได้ แต่"หัวใจ"จริงๆ ของการเสนอ"นิรโทษกรรม" กันตอนนี้ (ไม่ว่าร่างไหนใน 3 ร่าง ทีเขาเสนอกันมา ก่อนทีคุณวีรพัฒน์ จะ "กระโดด" เข้ามา ขอ"เอาด้วยคน" ) คือให้รัฐบาล ริเริ่มใชอำนาจในการบริหาร เหมือนเรืองอืนๆนั่นแหละ
 
 
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์  อาจารย์พูดถูกครับ ที่บอกว่า แหม ถ้าแค่ "คุยกัน" แล้วแก้ปัญหาได้ มันคงแก้ไปเป็นชาติแล้วมังครับ แต่ผมเห็นต่างกับอาจารย์ ตรงที่ผมมองว่า แท้จริงแล้ว เรายังไม่มีบรรยายกาศและเทคนิคในการ "คุยกัน" อย่างแท้จริง
 
อาจารย์เชื่อไหมครับ ขนาดรองประธานสภา จะคุยกับหัวหน้าฝ่ายค้านแบบไม่ผูกมัดอะไร ยังต้องส่งสารไปต่อกันหลายทอด และตลกมากคือ กว่าจะรู้ ใช้เวลาเป็นวันๆ นะครับ ห้องอยู่ห่างกัน 10 ก้าว คือวันนี้ วิธีการสื่อสารคุยกันตอนนี้ มันมีปัญหาจริงๆ
 
และอาจารย์คงไม่ปฏิเสธ backlash ของการให้รัฐบาล (และสภาที รบ.เป็นเสียงข้างมาก) ใช้อำนาจในเชิงบริหาร จัดให้มี กม.นี้ ในเรื่องนี้ในบรรยากาศแบบนี้นะครับ
 
 
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คือสรุปแล้ว คุณ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นอกจากไม่ได้เสนออะไรแล้ว ถ้าพูดแบบโหดๆอาจจะบอกว่า "แกล้งโง่" คือ แกล้งไม่รู้ว่า ทีเขาเสนอๆกันน่ะ ไมใช่ เขาไม่รู้ว่า มีการทะเลาะ มีการไม่เห็นด้วย มีการคัดค้าน ... รู้ .. แต่เสนอ นี่หมายความว่า ให้รัฐบาลทำ ไม่ว่าจะม่ีเสียงคัดค้านหรือไม่ (เพราะมีอยู่แล้ว)
 
ดังนั้นไอ้ที่เสนอ "เปิดพื้นที" ก็เหมือนกลับบอกว่า "เออๆๆ อย่าเพิ่งเสนอๆ (นิรโทษ) มาคุยกันก่อน ปัดโธ่ มันคนละเรื่องเลยครับ (คุณวีรพัฒน์ พูด "มีส่วนถูก" อยู่นิด ในรายการนั้น คือ ที่พูดว่าข้อเสนอตัวเองเป็น "การต่อเนือง" ของ คอป. จริงๆผมว่าไมใช่ การต่อเนืองหรอกครับ คือการเสนอตั้ง คอป.ใหม่ เสนอตั้ง กมธ.ปรองดอง แบบสนธิ (บัง) ใหม่นันแหละ
 
เพราะข้อเสนอไม่มีอะไรมากกว่านั้น นั่นจริงๆ คือ เท่ากับให้ตั้ง คอป ให้ตั้ง กมธ.ปรองดองใหม่นั่นแหละ
 
(ปล. แน่นอนผม aware หรือ ตระหนักว่า "พรบ. ฉบับแรก" ทีคุณเสนอมีส่วนที "ใหม่" กว่า คอป. หรือ กมธ. ชุด สนธิ (บัง) อยู่ และดังนั้นจะว่าเป็นการ repeat หรือเริ่มใหม่ทั้งหมดก็ไม่เชิง แต่่มันน้อยมากๆ และ argument ส่วนใหญ๋ ของคุณ ก็เน้น ไปที่ ประเด็น "เปิดพื้นที่" หรือ ตัว กม.ฉบับทีสอง ทีให้ตั้ง กก. สรุปคือ .. เป็นการ ให้ตั้ง คอป. หรือ กมธ. ใหม่นันแหละ ไม่มีอะไรจริงๆ
 
 
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์  ผมก็ถามอาจารย์ง่ายๆแบบนี้ละกัน ถ้าสมมติ ผมไม่เคยเสนอแนวคิดนี้มาเลย และสุดท้าย ไม่มีการเสนอร่างใดๆ เข้าสภาเลย อาจารย์จะทำอย่างไร ?
 
คนที่มากด like อ. สมศักดิ์ ข้างบน เช่น
…….
…….
…….
…….

ถ้าท่านมีความเห็น เชิญช่วยมาตอบคำถามด้วยนะครับ
 
 
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไม่เข้าใจว่า "สุดท้าย ไม่มีการเสนอร่างใดๆ" นี่หมายถึงอะไรนะครับ? หมายถึงว่า รบ. อาจจะ "ปอด" ไม่ยอมทำสักข้อ ใน 3 optionsที่มีการเสนอ  (นปช. , อุกฤษณ์ ,กลุ่ม 29 มกราฯ) ใช่ไหมครับ?
 
คำตอบคือ เขาก็หาทางผลักดันต่อไปสิครับ
 
ประเด็นคือ "เสนอทีไม่ได้เสนออะไร"แบบคุณ คือ เสนอให้กลับไปตั้ง คอป. หรือ กมธ. สนธิ (บัง)ใหม่ มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกครับ  แล้วถ้าใครไม่ "ตาลาย" ไปกับการพูดของคุณนะ ฟังดีๆจะเห็นว่าทีคุณ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ พูดเยอะแยะๆ เริ่องคนเห็นต่างๆกัน ทะเลาะกันแล้วไม่มีการมาคุยกัน บลา บลา บลา
 
แหมมันก็เหมือน ไอเดีย ตอนให้มีการตั้ง คอป. และโดยเฉพาะตอนให้มีการตั้ง กมธ.สนธิ(บัง) และนำรายงานของ สนธิ (บัง )เข้าสภา นันแหละ คงจำได้ ตอนรายงาน สนธิ (บัง) เข้าสภา ก็เถียงกันหลายวัน 
 
ตั้ง กก. ตามที่คุณเสนอ ก็มาเถียงกันใหม่ ก็เท่านั้นเอง
 
อย่างทีผมบอกว่ามันคนละประเด็นกับที่คนเขาเสนอๆ "นิรโทษ" ตอนนี้เลยครับ คุณวีรพัฒน์ "ดึง" การดีเบต หรือ ถ้าพูดแบบไม่เกรงใจ ดึง "สป็อตไลท์" ไปทีตัวคุณวีรพัฒน์ โดยไม่มีอะไรใหม่เลย ถอยหลังไปเป็นปีด้วยซ้ำ
 
 
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คือทีคุณ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ พูดเยอะแยะๆๆ ฟังดู เหมือนจะ "แหม ดีนะ พูดดี"  แต่โทษที อะไรคือข้อเสนอว่า ถ้ามานั่ง "คุยกัน" แล้วจะ เลิกทะเลาะกัน หรือข้อสรุปร่วมกันได้ครับ? คอป. กมธ. ก็เป็นแบบนี้มาแล้ว (และคุณเอง ก็พูดในรายการเอง แต่ที่ "ตลก" คือ หลังจาก acknowledge เรืองนี้ ของ กก. ชุดต่างๆ ในอดีตแล้ว คุณไม่ได้เสนอเลยว่า ทีให้ตั้งใหม่ น่ะ จะต่างออกไปได้ยังไง
 
ย้ำว่า ที่คนเขาเสนอ นิรโทษ น่ะ มันมาจาก คนละจุดเริ่มต้นเลยครับ เขามาจากที่ เขารู้ครับ ไม่ใช่ ไม่รู้วา มีความเห็นต่างๆ แต่ทีเสนอคือให้รัฐบาลทำครับ
 
 
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล  ให้ รบ. ใช้อำนาจบริหารเหมือนทีใช้ในกรณี จำนำข้าว รถคันแรก แจกแท็บเล็ต นั่นแหละ คือ ผลักดัน กม.นิรโทษกรรม ออกมาครับ มีคนไม่เห็นด้วย (เหมือน 3 กรณีตัวอย่างนั้น) ก็พยายามทำความเข้าใจ พยายาม "คุย" ในช่องทางต่างๆ แต่ถึงทีสุด ให้ใช้อำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ ที รบ. ควบคุมอยู โดยชอบธรรม ลงมือทำไป เหมือน 3 เรืองนันแหละครับ 
 
 
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผมมองแบบนี้ครับ คอป คือ เบื้องต้นมากๆ ไปพยายามหาข้อเท็จจริง ซึ่งหาได้แต่ในเชิงโครงส้ราง เรื่องเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับคนในคุกมันก็ไม่ชัด ไม่เจาะเป็นกรณีบุคคล คอป ไม่ได้บอกว่าใครโดยเจาะจง ว่ามีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองที่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม และที่สำคัญคือ คอป ตั้งมาโดยคุณอภิสิทธิ์ mandate มีจำกัด
 
กมธ สนธิ นี่ยิ่งธรรมดาใหญ่ เพราะอาศัยอำนาจการตรวจสอบทั่วไปของกรรมาธิการ เอารายงานมาเพื่อแปะหน้า พรบ ปรองดอง ซึ่งเราก็วิพากษ์กันไปแล้ว
 
ความจริง คณะกรรมการตามฉบับที่ 2 ก็ทำคล้ายๆ กับ คณะที่นิติราษฎร์เสนอ แต่อาจเจรจาให้ทำได้กว้างกว่า คืออาจมีการพิจารณาข้อเท็จจริงรายบุคคล ในแง่ความสำนึก การให้อภัย การยอมรับความผิดพลาด ส่วนจะไปโยงกับศาลอย่างไร อันนี้ก็เเถียงกันได้ ถ้าทำได้จริง มันจะเป็น TRC แบบใหม่พอสมควรนะครับ
 
ผมจึงคิดว่ามันง่ายเกินไป ที่จะบอกว่า พรบ ฉบับที่ สอง ซ้ำกับสองชุดนั้น
 
 
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ อนึ่ง ผมคิดว่าสิ่งที่ อ. สมศักดิ์กำลังวิจารณ์นั้น เป็นประโยชน์มาก ถ้ามาคุยกันแบบนี้ตั้งแต่วันแรกๆ ก็คงดีไม่น้อย ดังนั้น ใครจะไปดราม่าเรื่องอื่นอะไร ลองเอา อ. สมศักดิ์เป็นแบบอย่างหน่อยนะครับ
 
 
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์  อนึ่ง ขอให้ clear ประเด็นนึงนะครับ ผมเสนอ alternativeนะครับ ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลไม่กล้าหรือไม่ควรเสนอร่าง อีก 3 ร่าง อันนั้นผมไม่แน่ใจ ถ้าเขาเสนอผมก็จะรอลุ้นดูต่อ แต่ถ้าเขาไม่เสนออย่างน้อย ตอนนี้มันก็มี alternative ในการเจรจาครับ
 
 
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อันนี้มันโยงเข้ากับประเด็นทีหลายคน เขามีปัญหารู้สึกว่า คุณ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ "อยากดัง" น่ะ  คือมันไม่ใช่ว่า เขาไม่พอใจ เพียงแค่่วา คุณวีรพัฒน์ ออกมาพูดโน่น พูดนี่ หรือ เสนอโน่นเสนอนี่ หรอกครับ  
 
คนอื่น ทำแบบนี้ ผมไม่เห็นคนเขารู้สึก แต่ทีเขารู้สึก ก็เพราะ "พูดโน่น พูดนี่ เสนอโน่น เสนอนี่" แต่ไมมีอะไร นันแหละครับ
 
คือ ถ้า "มีอะไร" จริงๆ ผมว่า ความรู้สึกนี้มันไม่เกิด แต่นี่ความจริงคือ พอเรื่อง "นิรโทษกรรม" มัน "ดัง" เป็น "กระแส" ออกมา คุณวีรพัฒน์ ก็ "มาแล้ว" ออกสือ ออกหน้ามา .. ซึง ผมว่า มันโอเค .. ถ้า คุณมีอะไรทีเป็น "เนื้อเป็นหนัง" (SUBSTANTIAL) ในการเสนอจริงๆ
 
แต่ความจริงคือ คุณไม่มี
 
ความจริงคือข้อเสนอคุณ ถ้าไม่"หลง"ไปกับวาทะศิลป์ ในการพูดฉะฉาน ยิงเป็นไฟแล้ว มันแค่เท่ากับเสนอให้ไปตั้ง คอป หรือ กมธ. ปรองดอง ใหม่เท่านั้นเอง มันแค่บอกว่ามีคนไม่เห็นด้วยกันในเรืองนี้ มีหลากหลายความเห็น (แหม พ่อคุณ มีใครไม่รู้ประเด็นนี้บ้าง?)
 
แต่สุดท้าย ถ้าตั้ง "กรรมการ" หรือ "เปิดพืนทีคุยกัน" (ใหม่) แบบทีคุณเสนอแล้ว จะแก้ปัญหาทีขัดแย้งกันอย่างไร? มีข้อเสนอไหม? .... แต่น แต๊น... ไม่มีครับผม ไม่มีเลยจริงๆ
 
ดังน้ัน เมือมองโดยรวม คนเขาก็เลยรู้สึกว่านี่เป็นเรือง "อยากดัง" คือ "พยายามแย่ง spot light" "แย่งซีน" สิ่งทีคนอืนๆ กลุ่มอืนๆเขาเสนอแบบมีเนื้อมีหนัง เท่าน้นเอง
 
 
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์  คำว่ามีหรือไม่มีก็ขึ้นอยู่ที่คนมอง สมมติคนมองว่ามันมีแปลว่าผมไม่อยากดัง ถ้าไม่มีถึงแปลว่าผมอยากดัง แต่สมมติเราเอาเรื่อง อยากดังออกไปนะครับ  ถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆ มันก็แค่ข้อเสนอที่ไม่มีอะไร นักการเมืองก็คงไม่สนใจถึงขั้นนำเสนอกันในระดับแกนนำ สื่อก็คงไม่ลง คนก็คงไม่วิจารณ์ สุดท้ายมันก็ไม่ดัง เพราะในเมื่อมันไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรจะให้ดัง
 
เพราะฉะนั้น สมมติฐานของคนที่คิดว่าผมอยากดัง มันจึงผิดด้วยตรรกะและไม่สามารถยืนอยู่ได้ ผมก็ขออย่างเดียว ถ้ามันไม่มีสาระอะไรก็อย่าพูดถึงมันเลยครับ พูดจากใจจริงๆนะ ผมอยากให้ข้อเสนอนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับชื่อผมเลย
 
เล่าความจริงเบื้องหลังให้ฟังนะครับ
 
วันแรกที่ประชุมกันกับคุณก่อแก้ว วรชัย ปานเทพ ทุกคนเดินออกจากห้อง มีนักข่าวรออยู่ ผมรีบเดินหลบเข้าห้องเลย เพราะผมไม่อยากคุยกับนักข่าว ผมอยากให้ข่าวมันออกมาทำนองว่า เสื้อเหลืองเสื้อแดงเขาคุยกันได้เอง ดังนั้น วันแรก ในข่าวจีงไม่มีชื่อผมอยู่ในที่ประชุมด้วย คนให้ข่าวมีแต่ คุณก่อแก้ว วรชัย ปานเทพ
 
ไปดู facebook wall ผม ผมไม่ได้ประกาศอะไรเลยนะครับ
 
ปรากฏคุณปานเทพเอาข้อเสนอผมไปเล่าเองใน ASTV สื่อก็เริ่มรายงาน และเมื่อเริ่มมีคำถาม เล่ากันสั้นๆและตรงบ้างไม่ตรงบ้าง รองประธานฯก็ขอให้ผมช่วยชี้แจงเพราะท่านไม่อยากชี้แจงเอง และเมื่อมีการเริ่มพูดคุยเป็นรูปเป็นร่างแต่ข้อมูลไม่ชัด ผมก็ตัดสินใจช่วยชี้แจง เอาแบบชัด
 
ไปลองถามนักข่าวที่ประจำกระทรวงมหาดไทยนะครับ วันที่คุณเจริญกับผมไปพบหัวหนัาพรรคเพื่อไทย ตอนออกมาจากห้อง รมต. นักข่าวรุมดักที่ประตู คนอื่นเขาก็ยืนข้างๆคุณเจริญที่ให้สัมภาษณ์
 
แต่ผมหลบอยู่หลังประตูครับ ไปถามนักข่าว หรือ เลขาห้อง มท 1 ได้ เพราะผมไม่ได้อยากให้ตัวเองเป็นข่าว แต่ผมอยากให้ความคิดที่ผมเสนอเป็น ข่าว เรื่องนี้ เป็นเรื่องของความคิด ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่มีคนเพ่งเล็งมาที่ตัวผมเหลือเกิน
 
วันนี้หาว่าผมอยากดัง พอผมดังแล้วก็คงหาว่าผมรับเงินทักษิณหรือไม่ล้มเจ้า และก็จะหาอะไรมาไปเรื่อยๆ มันก็ไปแบบนี้ เรื่อยๆ มีเรื่องให้คนได้เม้าท์ไปวันๆ ผมก็รู้ว่ามันคงห้ามไม่ได้
 
แต่สำหรับปัญญาชน เช่น อ. สมศักดิ์ และหลายๆท่าน ผมว่าเลิกพูดได้แล้วครับว่าผมอยากดังหรือไม่อะไร ใครจะพูดก็พูดไป แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงสาระของข้อเสนอผมเลย ถ้าข้อเสนอมันไม่มีอะไร มันก็ไม่มีอะไร และสุดท้าย ก็ไม่มีอะไรจะไปพูดถึงมัน
 
แต่ถ้ายังมี สื่อ มีนักการเมือง มีประชาชนพูดถึงข้อเสนอ ก็ขอให้พยายามลบชื่อผมออกไปนะครับ ผมไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ผมมีความสุขมาก เวลาแต่งตัวเชยๆ ผมฟูๆ ออกไปห้างแถวๆบ้าน เพื่อตัดผม แล้วแวะไปซื้ออาหารสุนัข ไม่มีใครทัก ไม่มีใครรู้จัก ถ้าผมไม่ได้สำคัญอะไร ก็พูดถึง 'ตัวผม' น้อยๆหน่อยก็แล้วกัน  :) 
 
 
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เรือง"อยากดัง" นี่ ผมเคยบอกไปแล้วว่า ผมไม่มีปัญหาในตัวมันเอง ผมเห็นด้วย กับทีคุณ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ พูดวันก่อนด้วยซ้ำว่า อยากให้ "ความคิด" "ดัง" อะไรแบบนั้น ไมใช่เรืองเสียหาย  เพียงแต่ต้องการอธิบายว่า ทำไม คนจำนวนไม่น้อยเขารู้สึกอย่างนี้ เพราะ เขาเห็นจริงๆว่า ข้อเสนอมันไม่มีอะไร อาจจะเรียกวา่ "ผิดประเด็น" "เบียงประเด็น" หรือ "ย้อนประเด็น" กับทีเขาพูดๆกันเรือง นิรโทษ ด้วยซ้ำ
 
เพราะอย่างทีบอก่วา ทีเขาพูดเรื่อง "นิรโทษ" น่ะ ไมใช่เขาไม่รู้ว่า "มีความเห็นแตกต่าง" อย่างที่คุณวีรพัฒน์ พูดและเขาก็ไม่มีใครปฏิเสธว่า ถ้าสามารถ "คุยกัน" ลดคนไม่เห็นด้วย ให้น้อยลง อะไรแบบนั้นก็ดี
 
แต่ประเด็นสำคัญจริงๆ เขาต้องการเสนอว่าให้ รบ.(และ รัฐสภา ที รบ.คุมเสียงข้างมาก) ทำไป ในฐานะการ "บริหารประเทศ" (แบบ แจกแท็บเล็ต จำนำข้าว รถคันแรก นันแรก คนคัดค้าน "เห็นไม่ตรงกัน" เต็มไปหมดเหมือนกัน)
 
ผมว่าคุณวีรพัฒน์เองก็"ยอมรับ"โดย"ปริยาย" ว่า ทีตัวเองเสนอ "ไมมีอะไร" ด้วยการ บอกว่า มันเหมือนการ "ต่อเนืองจาก คอป (และดังทีผมว่า ควรใส่เพิ่ม "กมธ ของสนธิ บัง" ด้วย)
 
แต่อะไรคือ "ต่อเนือง"?? มีข้อเสนออะไรใหม่ ที่จะทำให้มีการ "คุย" กันมากขึ้น? ถ้าเท่าทีเสนอมา จริงๆก็คือ แค่ "ตั้งใหม่" คอป และ กมธ เทานั้นเอง โดยให้ฝ่ายต่างๆมาเป็น
 
และนี่มันคนละเรือง คนละประเด็นเลย กับทีคนเขาเรียกร้อง นิรโทษ คนทีเขาเสนอนิรโทษไมใช่และไม่เกียวเลยกับการที่ "มีความเห็นขัดแย้งกันอยู่" ใครๆก็รู้เห็นเรืองนี้
 
แต่เขาเสนอให้ทำครับ เพราะไอ้การตั้งกรรมการแบบ คอป แบบ กมธ. มันทำมาแล้ว จะไปทำซ้ำทำไม คนอยู่ในคุกเดือดร้อนทุกวัน





หมายเหตุ: ประชา ไทได้ทำการคัดข้อมูลการถกเถียงเฉพาะจากนักวิชาการทั้งสองท่าน โดยไม่ได้นำเสนอความคิดเห็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านอื่นที่ร่วมสนทนา เพื่อให้เกิดความชัดเจนในข้อถกเถียง หากผู้อ่านต้องการที่จะรับทราบข้อมูลในการพูดคุยทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่  
 
 

 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น