แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ถอดรหัสคำต่อคำ "ทักษิณ" สัมภาษณ์เปิดใจ มองการเมืองไทย ปี๒๕๕๖ ล่าสุดจากฮ่องกง

ที่มา Thai Free News

 เขียนโดย Administrator  


๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ โกซิกส์ทีวี -  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา
สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมว๊อยซ์ทีวี VoiceTV
ได้ออกอากาศเทปสัมภาษณ์พิเศษ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร จากฮ่องกง
โดย นายธีรัตถ์ รัตนเสวี ความยาวทั้งสิ้น ๓๒.๔๖ นาที
เทปการสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกถ่ายทำขณะที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเยือนฮ่องกง
เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา การสัมภาษณ์พิเศษดังกล่าวมีเนื้อหาดังต่อไปนี้




 ท่านมีมุมมองอย่างไรต่อภาพรวมของประเทศไทย ในปี ๒๕๕๖? พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - มีคนพูดกันทั้งสองแบบ
แบบที่หนึ่งมีคนพูดมากหน่อย เพราะว่ามีการไปดูดวงว่าตอนนี้
ราหูย้ายออกไปเล็งลัคนาเมืองและมีดาวอังคารมาร่วม 
มองว่าจะเกิดความรุนแรงอะไรต่างๆ
แต่ขอกลับมาที่นายกฯ ท่านนายกฯมุ่งมั่นมาก อยากเห็นความปรองดองในบ้านเมือง
ก็เลยมองว่า ทุกอย่างควรกลับไปปรึกษาประชาชน
เรื่องที่มันแรงและค้างอยู่ในสภาก็คือการโหวตวาระ 3 ของรัฐธรรมนูญ
ท่านก็เลยบอกว่าน่าจะปรึกษาประชาชน
ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินโดยระบบประชาเสวนากับการทำประชามติควบคู่กันไป
ประชามติมาจากความเข้าใจของประชาชน
เมื่อประชาชนเข้าใจแล้วก็ให้ประชาชนเลือกว่าต้องการแบบไหน

อันนี้เป็นเรื่องของประชามติ
ท่านนายกฯมีความมุ่งมั่นจริงๆ เรื่องของการสร้างความปรองดองในประเทศ
ผมเลยคิดว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ความขัดแย้งน่าจะจบลง
หรือไม่ก็เป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นที่จะเกิดการปรองดองในอนาคต
เพราะประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมตัดสินว่าจะไปทางไหน 

จะเดินหน้าหรือจะถอยหลัง ก็ชัดเจน

ไม่ห่วงว่าจะมีเสียงเพียงพอหรือไม่ในการทำประชามติ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ๒๒ ล้านคน
ผมเชื่อว่า เป็นเรื่องอนาคตของประเทศ
ผมเชื่อว่าประชาชนคนไทยจะไปใช้สิทธิเยอะ 

อยู่ที่การรณรงค์ของ กกต.และภาครัฐ
เพื่อจะให้ประชาชนตัดสินอนาคตของประเทศด้วยตนเอง

ในมุมมองของท่านที่อยู่ในวงการเมืองมานาน
ท่านมองว่า รัฐธรรมนูญเนื้อหาใดบ้างที่ควรมีการแก้ไข?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - หนึ่งคือ ต้องให้เกิดเป้นประชาธิปไตยมากขึ้น
และต้องมีการแบ่งอำนาจที่ชัดเจนระหว่าง
นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการไม่มีการข้ามซึ่งกันและกัน
สามเรื่องการเคารพอำนาจประชาชน ให้อำนาจประชาชนเป้นอำนาจหลัก
ไม่ใช่อำนาจประชาชนแทบจะไม่มีเลย ประชาชนตัดสินใจมาอย่างนี้
แล้วมีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีไม่กี่คนบอกไม่เอาด้วย อย่างนี้มันไม่ได้

บทบาทขององค์กรอิสระ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - องค์กรอิสระ ต้องยังอยู่
แต่ให้มีระบบการเข้ามาสู่อำนาจอย่างเป็นระบบ
มีส่วนเชื่อมโยงอำนาจกับประชาชนก็จะเป็นสิ่งที่ดี
ซึ่งอันนั้นเป็นเรื่องของรายละเอียดมากกว่า
ส่วนโครงสร้างที่มีอยู่เดิมผมว่าก็โอเค 

เพียงแต่การเข้าสู่อำนาจก็ดีการก้าวพ้นอำนาจก็ดี
ต้องมีความเป็นธรรมมากกขึ้น และเชื่อมโยงไปที่อำนาจประชาชนมากขึ้น

การบังคับใช้กฏหมายในเมืองไทยยังมีความเหลื่อมล้ำกันอยู่
จะบังคับใช้กฏหมายอย่างไรไม่ให้มี 2 มาตรฐาน?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ทุกองค์กรต้องมีระบบตรวจสอบ
ไม่ใช่องค์กรหนึ่งตรวจสอบ อีกองค์กรไม่ตรวจสอบ
องค์กรผู้ตรวจสอบก็ต้องสามารถถูกตรวจสอบได้ด้วย 

ถึงจะเป็นลักษณะที่คานอำนาจกัน

ประชาเสวนากับการทำประชามติ จะเกิดขึ้นประมาณเมื่อไหร่ครับ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - อันนี้แล้วแต่รัฐบาล
เข้าใจว่าประชาเสวนารัฐบาลเริ่มแล้ว
ส่วนประชามติอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาลว่าตัดสินใจหรือยัง
เมื่อตัดสินใจแล้วมันก็เดินหน้าก็คงใช้เวลาอีกไม่กี่เดือน
ถ้ารัฐบาลติดสินใจ ครม.อนุมัติแล้ว 

กกต.ก็เป็นผู้ดำเนินการ กกต.อาจจะใช้เวลา 90 วัน
โดยประมาณตามหลักการ ซึ่งผมไม่ทราบรายละเอียด

สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับนายกฯยิ่งลักษณ์?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - นายกฯยิ่งลักษณ์ บอกเองว่า
ไม่อยากเพิ่มความขัดแย้งใดๆในสังคม ปัญหาการเมืองทุกเรื่อง
ถ้าเป็นปัญหาการสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติมท่านพร้อมถอย
แต่ถ้าจะเดินหน้าต่อ ต้องเดินหน้าเมื่อได้วิธีการลดความขัดแย้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรึกษาประชาชน ส่วนใหญ่คือ
ให้ประชาชนตัดสินด้วยประชามติ 

ถึงแม้เราอาจจะเสียเวลาบ้าง เสียค่าใช้จ่ายบ้าง
แต่มันเป็นการเคารพประชาชน
และเป็นการบอกทุกคนให้รู้ว่า 

อย่าไปคิดว่าตนเองเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ
โดยไม่ฟังเสียประชาชนที่ตัดสินใจแล้ว

การเดินหน้าปรองดองรวมถึงที่ท่านทักษิณ จะกลับเมืองไทยด้วยหรือไม่?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ไม่ต้องเอาเรื่องผมเข้าไปเกี่ยวข้อง
ทำทุกอย่างให้โปร่งใส ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นกลาง
แล้วผมจะได้กลับหรือไม่ได้กลับก็ไม่เป็นไร
เรื่องของผมผมพูดตลอดเวลาว่าให้ผมอยู่เมืองนอกนานเกินไป
จนผมปรับตัวได้แล้วว่าผมอยู่เมืองนอกผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรนะครับ
ผมก็สะดวกสบายดี มีความสุขดี
แต่แน่นอน ทุกลมหายใจ ทุกโอกาสที่ไปเห็นอะไร
จะนึกถึงว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างไร
และส่งข้อมูลและแนวคิดไปให้นายกฯบ้าง รัฐมนตรีบ้าง ให้พรรคบ้าง 

เพื่อให้เขาเอาไปคิด
แล้วเขาคิดแล้วเป็นอย่างไรก็เป็นไปอย่างนั้น


มีการเชื่อมโยงว่าการที่ DSI เรียกอภิสิทธิื-สุเทพ เข้าไป
แล้วอาจจะมีการนิรโทษกรรม ซึ่งอาจจะรวมถึงตัวท่านด้วย?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - คนกระทำความผิด
หรือ มีผู้คนจำนวนมากสงสัยว่าจะกระทำความผิด ก็ต้องรับการพิสูจน์
เขาบอกกับผมว่าต้องพิสูจน์ เขาต้องพิสูจน์
วันนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ก็มีความผิด
เพราะคนตายเป็นร้อยคน ไม่มีคนรับผิดชอบเลยหรือ
เป็นเรื่องที่กระบวนการยุติธรรมต้องทำงาน
อย่าไปคิดว่ากระบวนการยุติธรรมทำงานเพื่อใคร
ตอนสมัยที่เขาเป็นนายกฯ 

เขาให้กระบวนการยุติธรรมทำงานด้านผมด้านเดียวทำไมไม่พูด
วันนี้กฏหมายต้องปฏิบัติทั้งสองด้านเหมือนกัน
อย่างตอนสมัยอภิสิทธิือยู่เรื่องของการปิดสนามบิน/ปิดทำเนียบทำไม่ไม่เดิน?
ทำไมเดินแต่ผม วันนี้ต้องแฟร์ ต้องมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
อันนี้คนไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬามาอยู่กับการเมืองมากไป
ทำให้มีความรู้สึกว่าจะต้องเอาเปรียบ ต้องเล่นงานคนข้างเดียวซึ่งอันนี้ไม่ได้

ไม่ใช่การรังแกกันทางการเมือง?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ไม่มี ถ้าคุณธาริต ไม่ทำหน้าที่ตรงนี้ ก็ผิดมาตรา๑๕๗
เพราะ DSI ไม่มีอภิสิทธิ์เหมือนบางองค์กรที่ปล่อยให้เรื่องบางเรื่องหมดอายุความ
แต่เรื่องอีกฝ่ายหนึ่งต้องรีบทำทันที อย่างนี้มันใช้ไม่ได้ อย่างนี้ที่บ้านเมืองแตกแยก
เพราะองค์กรที่ทำหน้าที่รักษาความเป็นธรรมเอียง

การหาความจริงของการเสียชีวิตในปี๒๕๕๓ ดีอย่างไรต่อสังคมไทย?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - วันนี้ การปรองดองทุกประเทศที่เกิดขึ้น
ต้องเริ่มต้นจากการค้นหาความจริง ความจริงจะได้เป็นบทเรียนว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก
ถึงแม้จะมีการปรองดอง 

มีการนิรโทษกรรมแต่สิ่งที่มันผิดพลาดไปแล้วเราต้องมีบทเรียน
เพราะมันแพงเหลือเกิน เมื่อมีบทเรียนมันจะไ้ด้ไม่เกิดขึ้นอีก
บทเรียนนี้ต้องชัดเจน ไม่ได้หรอกว่าจะไม่มีบทเรียน จะไม่มีความจริงเกิดขึ้น
เพราะที่ผ่านมามีการโกหกอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
เรื่องง่ายๆ ผมออกโทรทัศน์ช่อง ๑๑ เมื่อสองวันนี้ ที่การแข่งขันมวยไทยวอร์ริเออร์
สมาพันธ์เขาจัดและเขารู้ผมอยุ่แถวเอเชีย ก็อยากเชิญผมไปในฐานะอดีตนายกฯ
ผมไปผมก็ทำราชสดุดีถวายในหลวง แล้วทำหน้าที่เปิดงาน
บังเอิญว่าเขาเช่าเวลาไว้แล้ว เช่าเวลาก็คือถ่ายทอดสด
เขาเช่าเวลาไว้ก่อนหน้าแล้ว 

แล้วอยู่ๆเขารู้ว่าผมมาตรงนี้ อยากจะเชิญผมไปเป็นเกียรติ แก่สมาพันธ์หน่อยก็เชิญผมไป  ร้องกันลั่นเลยครับ ทำไมถึงร้อง ทำไมจะตายให้ได้ 
ผมไปปลุกระดมให้ทำลายความมั่นคงหรือเปล่า ก็เปล่า
ผมไปถวายราชสดุดี ก็กลัวไงครับ เพราะไปโกหกไว้ว่า ผมไม่จงรักภักดี
พอผมแสดงความจงรักภักดีก็เลยโกรธมากเลย
กลัวความจริงปรากฏว่ามันไม่จริงอย่างที่เขากล่าวหา
วันนี้ทั้งหมดเกิดจากความกลัวทั้งนั้น
ผมเลยอยากแนะนำให้คนที่กลัวผม ไม่ว่าจะกลัวด้วยสาเหตุใด 

กลัวก็ได้ เกลียดก็ได้
แต่ท่านพระพุทธทาสเคยพูดไว้ว่า โลภ โกรธ หลง ทำให้โง่
เพราะฉะนั้นต้องมีสติ อย่างเกิดจากโลภ โกรธ หลง เลย

การค้นหาความจริง ต้องรับอำนาจของ ICC ด้วยหรือไม่?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ถ้าความจริง ไม่สามารหาได้เจอโดยองค์กรในประเทศ
องค์กรต่างประเทศก็จำเป็น เรื่อง ICC เดิมพรรคประชาธิปัตย์โดยคุณชวน
สมัยรัฐบาลคุณชวนครั้งที่ 2 มีท่านสุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
ไปเซ็นต์รับเป็นภาคีศาลโลก
แต่มีกติกาว่า จะต้องไปขอสัตยาบันจากรัฐสภา เซ็นต์มาเรียบร้อย
พอมาถึงรัฐบาลผมรับเรื่องต่อ ก็มีการเสนอมาจากกระทรวงการต่างประเทศว่า
จะให้ลงสัตยาบันเอาเรื่องเข้าสภา
ผมเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับประมุขแห่งรัฐ ต่างประเทศสามารถฟ้องร้องพระเจ้าอยู่หัวได้
ซึ่งเรื่องนี้ผมรับไม่ได้ ผมไม่ยอม ถ้าเอาแค่ฟ้องร้องนายกรัฐมนตรีได้ผมยอม
แต่ฟ้องร้องถึงพระเจ้าอยู่ผมรับไม่ได้ ผมไม่ยอม ผมถึงไม่ทำสัตยาบัน นี่คือความจริง
ผมเป็นคนไม่ทำสัตยาบัน
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นปัจจุบันนี้ เป็นการยอมรับเขตอาณาศาลโลกเป็นกรณีเดียว
ซึ่งสามารถทำได้อีกถึงแม้เราไม่เป้นภาคีหรือเราไม่ลงสัตยาบัน
ซึ่งเราสามารถทำได้ถ้าเรายอมรับเขตอาณาเพียงเรื่องเดียว
เรื่องนี้เราพิจารณากันว่า ถ้าศาลไทยไม่รับเรื่อง ทางพวกเสื้อแดงเขาก็ไม่ยอม
เขาก็จะมากดดันรัฐบาลว่าเขาตายไปร้อยคนทำอย่างไรดี
ไม่มีคนรับผิดชอบ ไม่มีการสอบสวน ความจริงไม่ปรากฏ
อย่างนี้ถ้าส่งศาลโลก ศาลโลกต้องพิจารณาเรื่องนี้
แต่ถ้าศาลไทยรับพิจารณาแล้ว ศาลโลกเขาจะไม่รับ
เพราะเขา่จะให้ศาลไทยพิจารณาให้จบก่อนว่าเป็นธรรมไหม
ถ้าไม่เป็นธรรมเขาจะรับไปต่ออีกที

ท่านมาฮ่องกงครั้งนี้ เพื่ออะไร?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ผมมาประจำ
เพราะผมเปิดโอกาสให้พรรคพวกมาพบ
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงในเมืองไทย นักการเมืองบ้าง คนเสื้อแดงบ้าง
เขาคิดถึงอยากเจอ เราก็ต้องมาให้ใกล้หน่อย จะได้สะดวกเขา

คนยังมองว่าท่านเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐบาลหรือเปล่า?
เพราะอยู่ฮ่องกงก็ยังตามมาหาถึงฮ่องกงได้?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ผมอยากจะไปท่าขี้เหล็ก (หัวเราะ)
พอดีมีเรื่องไม่ค่อยดีก็เลยอย่าไปเลย 

พวกก็ขอร้องไม่ให้ไปกัน ก็เลยมาตรงนี้พอดี
ผมก็ไปประเทศแถวนี้เพราะว่า มันง่ายต่อการพบปะ คือ
หนึ่งผมก็คิดถึงเพื่อนฝูงของผมเหมือนกัน เขาก็คิดถึงผม
ก็ต้องอย่าห้ามจิตใจอะไรกันขนาดนั้นเลย ใจดำจังเลย (ยิ้ม)

ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนเป้นหลักครับ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ผมอยู่บนอากาศเป็นหลัก คือ
เดินทางตลอด
ผมไปอเมริกา ไปอังกฤษ ไปยุโรป ไปรัสเซีย ไปแอฟริกา ไปตะวันออกกลาง
มาเอเชีย ตอนนี้มาเอเชียบ่อย เพราะว่ารับเชิญหลายที่เหมือนกัน

อย่างที่เอเชียโซไซตี้
ก็ได้พบนักธุรกิจชั้นนำของฮ่องกงด้วย พูดอะไรกับเขาบ้างครับ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - พูดให้เขามั่นใจในประเทศไทย
วันนี้ความมั่นใจในประเทศไทยสำคัญ
เพราะเนื่องจากว่าข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งในประเทศไทยออกไปมากเกินไป
บางครั้งสื่อบางสื่อชอบเสนอเรื่องความขัดแย้งมากกว่าความสร้างสรรค์
เพราะประเทศไทยมีความสร้างสรรค์เยอะ
เราจึงต้องออกมาเหมือนกับโรดโชว์แบบนี้ มาเล่าให้เขาฟัง

เขามั่นใจไทยอย่างไรบ้างครับ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - เขาห่วงเรื่องความขัดแย้ง ก็เลยเล่าให้เขาฟัง
เหมืิอนที่เล่าให้ฟังว่าปีหน้าการเมืองจะเป็นอย่างไร
ผมบอกว่าดีกว่าปีนี้เยอะ 

การเมืองปี๒๕๕๖ จะสงบนิ่งกว่า ความขัดแย้งจะน้อยกว่าปี๒๕๕๕

การเมืองนิ่ง ความมั่นใจ และการลงทุนก็จะกลับมา?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - นั่นแหละ สำคัญที่สุด

รัฐบาลมีโครงการจะขยายการลงทุนโครงสร้างสำคัญครั้งใหญ่?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ผมพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจให้เขาฟัง
ผมบอกเขาว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะดีกว่าปีนี้เยอะ เยอะเพราะอะไร
เพราะเม็ดเงินของการลงทุนภาครัฐลงสู่ระบบเศรษฐกิจ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟความเร็วสูง 
เรื่องของการป้องกันน้ำท่วม ป้องกันภัยแล้งตรงนี้ขะมีการลงทุนเยอะ 
ซึ่งรัฐบาลตั้งงบการลงทุนไว้สามแสนกว่าล้านบาทก็จะมาลงตรงนี้
รถไฟฟ้ารอบกรุงเทพฯก็จะมาลง นอกจากนี้มีโครงการขยายสนามบิน
เพราะนักท่องเที่ยวยี่สิบล้านคนแล้ว ผมเชื่อว่ามันจะไปถึงสามสิบล้านง่ายๆ
แต่เราต้องเตรียมความพร้อมก่อน 

การลงทุนภาคเอกชนจากต่างประเทศจะเข้ามาเยอะ
เพราะประเทศไทยกำลังเป็นประเทศที่น่าสนใจมากเพราะ AEC
เมื่อ AEC เปิดแล้วประเทศไทยจะเป็นประเทศที่น่าลงทุนที่สุด
คนก็อยากจะเข้ามา เราก็ต้องสร้างระบบรองรับเม็ดเงินเหล่านี้
เหมือนกับขุดเขื่อนรอน้ำ เงินจะไหลเข้าประเทศไทย
เราไม่มีเขื่อนรอน้ำ ไม่มีอ่างเก็บน้ำไว้มันก็ไม่ได้น้ำ

การเติบโตทางเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เราเพิ่งพาการส่งออก?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ไม่พอ ยุโรปก่อนหน้านี้
เราต้องช่วยตัวเองในการหาตลาดใหม่ แน่นอนการเติมโตที่เราฝันไว้มันไปไม่ได้
เมื่อมันไปไม่ได้เราก็ต้องมาเพิ่มการเพิ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ 

กำลังซื้อของประชาชนเป็นตัวทำให้เศรษฐกิจเดิน?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ใช่ครับ

การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสามร้อยบาท
และโครงการรับจำนำข้าว สิ่งต่างๆเหล่านี้ คือการเพิ่มเม็ดเงินสู่ประชาชน?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - โครงการทั้งสองอย่างนั้น
มีเหตุผลมากกว่าแค่เศรษฐกิจในประเทศ
แต่มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจในประเทศเยอะ ที่มีความมากกว่า
เหตุผลที่๑ คือ เราอยากให้คนไทยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีไหม?
เมื่ออยากให้มีศักดิ์ศรีค่าแรงงานต้องให้เขาอยู่ได้ เขาไปทำงานให้เขาอยู่ได้
ไม่ใช่ให้เขาไปเป็นขอทาน
เหตุผลที่๒คือ ถ้าเขาทำนาก็ให้เขาอยู่ได้
ผมอยากจะเล่าว่า ชาวนาช่วยเหลือประเทศไทย มาตั้งแต่ปี๒๕๐๐
ที่เห็นชัดๆคือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแผนที่๑
บอกว่า ให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว เพื่อเอามาสร้างถนนหนทางไฟฟ้า
นั่นก็คือ เราไปเอาเงินจากชาวนามา ตอนหลังมาเงินเฟ้อขึ้น
เราบอกว่า ลดเงินเฟ้อโดยการคุมอาหาร ชาวนาก็ต้องขายของถูกลง
ฉะนั้นชาวนาลำบากมา แล้วเราก็ภูมิใจว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ
แต่ขณะเดียวกันเชาไม่พอจะกิน เราต้องคิดว่าเราอยากให้เขาพอกินไหม?
เราอยากให้เขาอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีพอกิน เราอยากให้เขารักษาอาชีพเขานี้ไหม?
ก็ต้องให้เขามีกำไรที่อยู่ได้
ก็เลยมีการคำนวณว่าชาวนาเฉลี่ยครอบครัวหนึ่งจะมีที่นาเฉลี่ยเจ็ดไร่ครึ่ง
ทำเฉลี่ยสองครอปเท่ากับ๑๕ไร่ กำไรประมาณ ๗,๕๐๐ บาท/ไร่ คูณด้วย๑๕ไร่
ก็จะประมาณแสนสองหรือแสนหนึ่งกว่าๆพอๆกับวันละสามร้อยบาท
ก็ทำให้เขาอยู่ได้ สังเกตไหมวันนี้ค่าแรงสามร้อยบาทแล้วยังหาแรงงานไม่ได้
เพราะเนื่องจากว่าประชาชนคนไทย
มีโอกาสเลือกว่าจะเป็นนายของตัวเองโดยการปลูกข้าวหรือขายแรงงงาน
เขามีโอกาสเลือกทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ถึงแม้ว่าเราคิดว่าหมื่นห้าที่เขาอยู่ได้จะขาดทุน
เราก็ต้องคิดว่าขาดทุนเราต้องทำให้ขาดทุนน้อย

จะให้ขาดทุนน้อยต้องทำราคาตลาดโลกให้ขึ้น
เราเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก

ทำไมต้องให้ผู้ส่งออกรายเล็กมากำหนดราคาข้าว
เราต้องเป็นคนกำหนดเอง
นั่นคือ มีวิธีการทางการตลาด เพื่อให้กลไลตลาดทำให้ราคามันขึ้น
เวลาราคาขึ้นเราก็ขาดทุนน้อยลง ขาดทุนน้อยลง

แต่เม็ดเงินเหล่านี้มันไปที่ประชาชนคนจน
เงินทุกเม็ดเขาได้เขาใช้หมด 

เขาใช้มันทำให้เศรษฐกิจหมุนได้สามรอบเป็นอย่างน้อย
รอบหนึ่งสี่แสนล้านรอบหนึ่งภาษีมูลค่าเพิ่มเจ็ดเปอร์เซ็นต์

ก็ได้มาอย่างน้อยสองหมื่นแปด หมุนสามรอบก็ได้แปดหมื่นสี่
มมุติเราขาดทุนอยู่ประมาณเจ็ดหมื่นล้านเฉลี่ยประมาณแถวนี้ต่อปี
ไม่ได้ขาดทุนจนเขาฉิบหายวายวอดเหมือนที่เขาพูดกัน
สมมุติเราขาดทุนเจ็ดหมื่นล้านเราได้มาแปดหมื่นสี่ก็ไม่ได้ขาดทุน
แต่ที่แน่ๆมันทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศทำให้ GDP เราโต

ชีวิตชาวนาก็ดีขึ้น?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ชีวิตชาวนาก็ดีขึ้น

แต่มีการตั้งข้อสังเกตในการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของบริษัทต่างๆ
ที่เข้ามาเกี่ยวพันกับท่านว่าทุจริตต่างๆเหล่านั้น?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - จะต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า
วันนี้รัฐบาลมีหน้าที่ดีลกับคนที่เป็นคู่สัญญาในเมื่อคู่สัญญาถูกต้อง
คู่สัญญาจะไปจ้างใคร เราจะไปรับรู้ได้ไหม?ทำไมเราต้องไปรับรู้
เขาจะจ้างนาย ก.มาขนกระสอบ เขาจะจ้างนาย ข. มาเอาไปลงเรือ เราไม่เกี่ยว
ขอตราบใดที่เขามาซื้อข้าวเราในราคาที่เหมาะสมที่เราจะขาย
ยกตัวอย่างรัฐบาลที่แล้วกำหนดราคาข้าวเก่าไว้ที่ประมาณ๕.๔๐บาท/กิโลกรัม
ตันละห้าพันสี่ร้อยบาท รัฐบาลนี้ทำสัญญากับบริษัทหนึ่ง

ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน
รัฐบาลจีนถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์มาซื้อที่๑๐บาท/กิโลกรัมหรือตันละหนึ่งหมื่นบาท
เท่ากับเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ราคาแพงกว่า 

ถ้ารัฐบาลที่แล้วยังอยู่ต่อก็ขายที่ห้าพันอย่างมาก
เพราะเขาตีราคาข้าวปี๒๕๕๓มาขายในปี๒๕๕๔ 

เพราะฉะนั้นเท่ากับแพงขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์
ขายได้แพงกว่าเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วเขาชำระเงินถูกต้อง
เวลาชำระเงินต้องดมกลิ่นดูไหมว่าเงินนี้มาจากไหน?
รัฐบาลไม่เกี่ยว รัฐบาลมีหน้าที่เป็นคู่สัญญา
ใครมาซื้อราคาดีก็ขาย ขายแล้วชำระตามกำหนดไหม
แล้วระบายข้าวตามกำหนดไหม ตามกำหนดก็จบ
มีรัฐบาลที่แล้วระบายข้าวไม่หมด

ขอผลัดการระบายข้าวมาถึงสามสี่รอบเขายังให้กันได้
วันนี้มันตรงไปตรงมาหมด
รับรองเลยว่ารัฐบาลนี้ ทำอะไรโปร่งใส ตรงไปตรงมา แล้วประสิทธิภาพ
บรรทัดสุดท้ายคือ ราคาดีกว่าที่แล้วเยอะ...

ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะขาดทุนมาก?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ไม่มากเลยครับ
วันนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ผมขอเอาความลับมาเปิดเผยหน่อย
มีคนบางคนไปเรียกนายธนาคารมาคุย ไม่รู้แกจะตายให้ได้กับเรื่องนี้
ไปเรียกนายธนาคารมาคุยโดยบอกว่าอย่าไปซื้อพันธบัตรของรัฐบาลนะ
ถ้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาล รัฐบาลจะมีเงินไปจำนำข้าวต่อ บ้าไหม?
ถ้าธนาคารไม่ซื้อรัฐบาลเดือดร้อนไหม ก็ไม่ได้เดือดร้อน

มีคนอื่นซื้อ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - รัฐบาลขายไปให้ประชาชน
ประชาชนก็ถอนเงินจากธนาคารมาซื้ออยู่ดี
แต่ว่ามันเป้นสัญญาณที่ไม่สวย ว่าอยู่ๆธนาคารเบี้ยวรัฐบาล สวยที่ไหน?
รัฐบาลเบี้ยวธนาคารบ้างจะทำอย่างไร? ใช่ไหม?
อันนี้เป็นสิ่งที่คนบางคนใช้ไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
แต่บังเอิญผมรู้จักคนเยอะ เขาก็ร้อนใจแทน เขาเลยเล่าให้ฟังว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น?
ก็เสร็จแล้วปรากฏว่า ผมก็โทรศัพท์ไปหานายธนาคารบางคน
นายธนาคารบางคนก็บอกว่า ผมไปร่วมประชุมด้วยจริงครับ
แต่ผมไม่ได้ทำอย่างนั้นด้วย อันนี้ไม่ดีเลย
วันนี้เรารักประเทศน้อยไป เรารักอีโก้ตนเองสูงเกินไป

รัฐบาลจะยังเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไปถึงเมื่อไหร่?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - อะไรที่มันเป็นประโยชน์ ต่อประชาชน ต่อประเทศ
และความเสียหายไม่เกิดมันต้องทำต่อ แน่นอนครับ
การทำงานองค์กรใหญ่ระบบมันยาว มันก็มีบกพร่องซึ่งอันนี้เป็นเรื่องธรรมดา
ต้องปรับปรุงไปแล้วเล่นงานคนไม่ดีไป ต้องทำไปควบคู่กัน
แต่หยุดเลยนี่ไม่ได้ ตอนนี้รัฐบาลเตรียมอย่างนี้ครับ
ท่านนายกฯเล่าให้ฟังว่า พอดีท่านนายกฯชอบเรื่องไฮเทค
ก็จะทำระบบออกไปประทวนด้วยคอมพิวเตอร์ อันนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน
และนอกจากนั้น จะมีระบบ GPS ภาพถ่ายดาวเทียม
เพื่อตรวจสอบว่าทะเบียนชาวนาทำกี่ไร่? อยู่ที่ไหน? ทำจริงหรือเปล่า?
ถ่ายภาพถ่ายทางดาวเทียมเห็นหมด
ตรงนี้พอจะออกไปประทวนจะตรวจสอบได้เลยว่า
คุณจดทะเบียนเลขที่เท่านี้ มีนาอยู่ตรงไหนเท่าไหร่ ตรวจสอบว่าปลูกข้าวจริง

เอาระบบสารสนเทศมาช่วย?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ช่วย ตรงนี้ก็จะรั่วไหลน้อยลง มันก็จะดีขึ้น
ดีไม่ดีมันก็จะไม่ขาดทุนเลย

นักวิชาการบางคนบอกว่า
เดือนหน้า หนี้สาธารณะของไทยจะสูงมาก เกินกว่า ๖๐% ของ GDP จะน่าเป็นห่วง?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - สมมุติว่ารัฐบาลขาดทุนกระเป๋าซ้าย
แต่กระเป๋าขวามันเข้ามาเยอะกว่า มันจะขาดทุนตรงไหน?
หนี้สาธารณะมันอยู่ตรงไหน? หนี้จากการขาดทุนหรือ?
เก็บภาษีเข้ามาไง คือ วันนี้นักวิชาการทั้งหลายอย่าใช้อารมณ์ ไปดูตัวเลข
และวิเคราะห์จริงๆ เห็นแก่ชาวนาเถอะ เขาลำบากให้เรามานานแล้ว
เขาสร้างถนนไฟฟ้าให้เรามาตั้งแต่รุ่นสมัยจอมพลสฤษดิ์แล้ว
เพราะฉะนั้นวันนี้ลูกหลานที่เขาต้องทำนา
เขาอยากยึดเป็นอาชีพและมันเป็นวิถีชีวิตของเขา ไม่ใช่เปลี่ยนของเขาง่ายๆ
ก็ให้เขาอยุ่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีเถอะ เขาคนไทยเหมือนเรา

ปีหน้าการจัดเก็บเงินของภาครัฐน้อยลงหรือไม่
เพราะมีการลดภาษีนิติบุคคลลงอีก ๒๐%?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ถ้าเรามองมิติเดียว
ใช่ครับ จาก ๒๓ เหลือ ๒๐ มันน้อยลง
แต่ฐานภาษีจะมีเพิ่มขึ้นคนคิดหนีจะหนีน้อยลง
เพราะเนื่องจากว่าภาษีขนาดนี้ไ่ม่คุ้มจะหนี สู้จ่ายภาษีดีกว่า
คนก็จะเข้าสู่ระบบภาษีมากจึ้น ต้องบอกว่าโลกยุคใหม่
ถ้าอยากได้น้อยจะได้มาก ถ้าโลภอยากได้มากจะได้น้อย
ประเทศที่ขึ้นภาษียกตัวอย่างอย่างฝรั่งเศสจะขึ้นภาษี๗๕%
ปรากฏว่านักธุรกิจฝรั่งเศสไปจดทะเบียนประเทศอื่นหมดเลย
ไม่เสียเลยทีนี้ ไม่เสียให้รัฐบาลฝรั่งเศสเลย

การลดภาษีนิติบุคคล ทำให้ฐานภาษีขยายขึ้น?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ถูกต้องครับ คนจะเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น

อย่างนี้ บริษัทนิติบุคคลต่างๆ
จะเอาส่วนต่างที่ได้จากการลดภาษีไปทำอะไรครับ?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ไปขึ้นค่าแรงครับ
ขึ้นค่าแรง ๓๐๐ บาท กับ ๑๕,๐๐๐ บาท รัฐบาลไม่ใช่ว่าคิดมิติเดียว
ถ้าคิดแต่ว่าลดภาษีอย่างเดียว ลดแล้วได้อะไรขึ้นมา...
ก็ประชาชนได้ไง แล้วประชาชนได้แล้วทำอย่างไร...
ประชาชนก็บริโภค บริโภคได้อะไร...
ได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม
มันก็เป้นภาษีในรูปแบบหนึ่งที่กลับเข้ามาในหีบของกระทรวงการคลังอยู่ดี

นโยบายต่างๆภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่นำมาใช้
ถูกมองว่าเป็นนโยบายประชานิยม?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ประชาชนนิยมครับ
แต่ไม่ได้นิยมบนพื้นบานของการไล่ลด แลก แจก แถม
เห็นวิธีที่ผมเล่าให้ฟังไหมว่า เราคิดหลายชั้น ถ้าคนคิดชั้นเดียวจะมองไม่ออก
ต้องคิดหลายชั้นว่ามันจะเกิดประโยชน์อะไร
บางอย่างเป็นประโยชน์โดยตรง
บางอย่างเป็นประโยชน์โดยอ้อม
แล้วประโยชน์โดยอ้อมมันส่งผลต่อประโยชน์โดยตรงอีกทางหนึ่ง
ซึ่งมันจะต้องมองหลายชั้นหน่อย อย่าคิดบัญญัติไตรยางค์ชั้นเดียว

ท่านมองว่ารัฐบาลจะอยู่ครบ ๔ ปีหรือไม่?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ถ้ารัฐบาลเหมือนรถยนตร์
มีเกียร์เดินหน้าแล้วมีเกียร์ถอยหลัง อยู่ครบ
ถ้ารู้จักว่าอะไรที่มันไปไม่ได้ก็ต้องยอมรับว่ามันไปไม่ได้ อะไรไปได้ก็เดินต่อไป

อะไรบ้างที่ท่านมองว่า เดินไปได้ และ เดินไปไม่ได้?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ส่วนใหญ่เป้นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง
ซึ่งรัฐบาลนี้ เผอิญนายกฯไม่ได้เป็นเซียนทางการเมือง
ท่านก็เลยรู้สึกว่าอะไรที่มันเดินไปสู่ความขัดแย้งไม่เอา ถอยก่อน ตั้งหลักใหม่
แล้วทำให้มันดี ถ้ามันเดินหน้าต่อได้ก็ให้มันเดิน
เหมือนกับเราถอยหลังเลี้ยวซ้ายไปหน่อย ออกไปได้เดินหน้าต่อ
ไม่ใช่ถอยตลอดเวลา รถเข้าเกียร์ถอยตลอดเวลาไม่ได้

ท่านมองบวนการในการโค่นล้มรัฐบาลอย่างไร?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - มันเป็นความพยายาม
วันนี้อยากบอกทุกฝ่ายว่า ถ้าเรารู้จักเคารพประชาชนในภาพรวมแล้ว
แล้วเรารักษากติกา บ้านเมืองจะไปได้ดีครับ อย่าไปคิดว่าคนนี้ไม่ใช่พวกเรา
ตรงนี้ต้องเป็นพวกเรา รัฐบาลต้องเป็นโดยพวกเราเท่านั้น 

แล้วประชาชนที่เหลือคือใคร?
อย่างบางคนไปมองว่าประชาชนจนฉะนั้นอย่าไปมีประชาธิปไตยเลย
คนจนเดี๋ยวนี้เขาคิดเรื่องการเมืองดีกว่า เพราะอะไร?
เพราะการเมืองมีผลต่อชีวิตเขา แต่คนบางคนการเมืองไม่มีผลต่อชีวิตเขา
เพราะเขารับราชการบ้าง กินเงินเดือนเฉยๆบ้าง เขาก็คิดว่าการเมืองไม่เกี่ยว
หรืออยู่มั่นคงแล้วก็ไม่สนใจการเมือง
แต่ความจริงแล้ว การเมืองเป็นเรื่องของสองระดับ 

ระดับหนึ่งเกี่ยวกับชีวิตของคนทั่วไป คือ
เรื่องของสวัสดิภาพ-สวัสดิการ 

อย่างที่สองมันเกี่ยวกับทิศทางประเทศในอนาคตว่าจะไปทางไหน?
จะเดินหน้าหรือจะถอยหลัง 

ถ้าจะแช่แข็งก็คือไปแทนที่พม่าแล้วพม่าแทนที่ไทย
มันอยู่ที่วิธีคิด ถ้าเอาเรื่องส่วนตัว เรื่องความอาฆาตแค้น 

ความเห็นแก่ตัว เรื่องพวกใครพวกมัน
ม่คำนึงถึงภาพรวมของประเทศ มันก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
แต่วันนี้อยากจะขอร้องว่าทุกคนเคารพกติกา
เหมือนแข่งฟุตบอล

กรรมการเป่าจบหมดเวลา ใครชนะก็คือชนะ ใครแพ้ก็คือแพ้
ไปฟิตใหม่แล้วมาแข่งใหม่ มีอีกหลายแมตช์ที่จะต้องแข่ง

บทบาทของตัวท่านกับรัฐบาล ท่านจะวางตัวอย่างไรต่อไป?
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ผมรักประเทศไทย ผมรักคนไทย ผมรักในหลวง
ผมรักพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้น อะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ผมก็ทำ
แต่ผมไม่รักบนการทำลายคนอื่น แต่ผมรักเพื่อรักษากติกา
ถ้ากติกาใครทำร้ายใคร มันก็เป็นเรื่องของกติกา มันไม่ใช่เรื่องของความตั้งใจ
เพราะฉะนั้นผมเองถึงโดนมาเยอะ ดดนกล้่นแกล้งมาเยอะ
โดนใช้ระบบที่แย่มากๆมาเล่นงานผมทั้งๆที่ผมทุ่มเทให้กับบ้านเมือง
ผมก็ถือว่าให้อภัยได้ ผม Forgift แต่ผมไม่ Forget เรื่องราวทั้งหมด
ผมลืมไม่ได้ ลบอะไรออกจากสมองยาก แต่ว่าเราไม่มีความอาฆาตแค้นเหลือ
ผมเก็บไว้ที่นี่ (ยกมือไปที่ศีรษะ) แต่ผมไม่เก็บไว้ที่นี่ (ยกมือไปที่หน้าอกแล้วยิ้ม)

อยากให้ท่านอวยพรปีใหม่กับประชาชนคนไทย
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร - ผมรักและห่วงใยคนไทย
อยากให้คนไทยอยู่อย่างมีความสุข สุขทั้งกายสุขทั้งใจ สุขใจก็คือ
นอกเหนือจากเรื่องของตัวเองแล้ว ก็อยากให้ปัญหาบ้านเมืองยุติเสียที
วันนี้ราเป็นสยามเมืองยิ้ม แต่เรายิ้มให้กันเพราะถามว่าสีอะไร
ถ้าสีเดียวกันถึงยิ้ม ซึ่งอันนี้มันเป็นอะไรที่ไม่ควรจะมี
พอสีนี้มาก็หมั่นไส้กันทั้งๆที่ไม่รู้ความจริง โดนเขาใส่หัวมา
ความจริงประเทศไทย มีอะไรดีๆเยอะ อย่ามาทะเลาะเบาะแว้งกันเลย
หันมาหากันดีกว่า ไม่มีประโยชน์ บางคนผัวเมียทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เพราะถูกเขาใส่หัวมา เพราะฉะนั้น ผมหวังอย่างยิ่งว่าปีใหม่นี้
การเมืองควรจะดีขึ้น เศรษฐกิจควรจะดีขึ้น สังคมก็ต้องดีขึ้น
อยากให้ทุกคนมีความหวัง มีความทุ่มเทให้กับส่วนรวมและให้กับตนเอง
เราจะได้อยู่กับประเทศไทยที่มีความสุข
ขอให้ทุกท่านได้เห็นประเทศไทยที่มีประชาธิปไตยมากขึ้น
เห็นประเทศไทยที่ให้โอกาสกับคนไทยมากขึ้น และอยุ่กับครอบครัวที่มีความสุข
ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง
เพื่อที่จะได้ต่อสู้กับเศรษฐกิจที่มีความแข่งขันสูงให้มีความสำเร็จ
ก็อยากให้คนไทยทุกคนมีความสุขครับ
ถึงแม้จะอยู่ไกล อยู่เมืองนอกหลายปี ความรักผูกพันของหัวใจผม
ที่มีต่อคนไทยและประเทศไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ
ขอให้ทุกท่านมีความรัก และความสุข ด้วยความห่วงใยครับ สวัสดีครับ


 http://www.tfn5.info/board/index.php?topic=43885.0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น